ประธานาธิบดีสหรัฐ Barack Obama จะประกาศแผนลดยอดขาดดุลงบประมาณในวันจันทร์ คาดว่าจะรวมข้อเสนอเรื่องการขึ้นภาษีขั้นต่ำสำหรับคนอเมริกันที่มีรายได้สูงกว่า 1 ล้านดอลล่าร์ต่อปีและบริษัทใหญ่ๆรวมอยู่ด้วย ข้อเสนอดังกล่าวเรียกว่า “ภาษีเศรษฐี” หรือ “Millionaire Tax”
ที่ผ่านมาคนอเมริกันร่ำรวยจ่ายภาษีเงินได้จากการลงทุนในอัตราน้อยกว่าเทื่อเทียบกับเงินได้หรือเงินเดือนทั่วไป มหาเศรษฐีนักลงทุนชาวอเมริกัน Warren Buffett ระบุไว้ในคำแถลงก่อนหน้านี้ว่า เขาและเพื่อนเศรษฐีชาวอเมริกันคนอื่นๆจ่ายภาษีเงินได้จากการลงทุนในอัตราที่ต่ำกว่าพนักงานบริษัทเขาเองเสียอีก บรรดาสื่อมวลชนจึงขนานนามแผนขึ้นภาษีคนรวยว่า “Buffett Rule”
อย่างไรก็ตาม บรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกันในรัฐสภาสหรัฐต่างต่อต้านมาตรการขึ้นภาษีคนรวยอย่างแข็งขัน โดยให้เหตุผลว่าการใช้มาตรการขึ้นภาษีคนรวยในช่วงเศรษฐกิจซบเซาเช่นนี้อ่จส่งผลเสียต่อภาคการลงทุนและการจ้างงานในสหรัฐ
ส.ส Paul Ryan พรรครีพับลิกัน ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐระบุว่า ไม่ว่าเก็บภาษีอะไรมากขึ้นจะทำให้สิ่งนั้นลดลง การเก็บภาษีคนจ้างงานก็หมายถึงการจ้างงานจะลดลง เก็นภาษีการลงทุนเพิ่มขึ้นก็จะทำให้การลงทุนลดลงเช่นกัน ส.ส Paul Ryan กล่าวต่อรายการโทรทัศน์ Fox News Sunday ว่าข้อเสนอขึ้นภาษีคนร่ำรวยจะยิ่งก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนรวยกับคนจนในอเมริกายิ่งขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน
ก่อนหน้านี้ ส.ส Eric Cantor ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวไว้ว่า ประเด็นที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังไม่สามารถตกลงกันได้นั้น อาจชะลอไว้ก่อนจนถึงช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีหน้า แต่ประธานาธิบดี Obama ชี้ว่าขณะที่เศรษฐกิจยังอ่อนแอและอัตราการว่างงานสูงเช่นนี้ คนอเมริกันทั่วไปไม่สามารถรอได้ถึง 14 เดือนจนถึงหลังการเลือกตั้ง
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ประธานาธิบดี Obama เพิ่งประกาศแผนกระตุ้นการจ้างงานมูลค่า 447,000 ล้านดอลล่าร์ โดยมีเป้าหมายลดอัตราการว่างงานลงจากระดับ 9.1% แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าทั้งข้อเสนอขึ้นภาษีคนรวยและแผนกระตุ้นการจ้างงานชุดใหม่ จะประสบขวากหนามสำคัญจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในรัฐสภาแน่นอน
