การให้กำเนิดแก่บุตรควรเป็นช่วงที่มีความหมายวิเศษที่สุดในชีวิตของผู้้หญิง แต่สำหรับเด็กสาวที่อายุน้อยกว่า 18 ปีทั่วโลก การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันสมควรและการคลอดบุตรอาจจะส่งผลกระทบทางสุขภาพรุนแรง ประสบกับการรังเกียจจากสังคมและในบางรายอาจหมายถึงความเป็นความตาย
กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ หรือ UNFPA ทำการศึกษาเรื่องนี้เเละพบว่าในประเทศกำลังพัฒนา ทุกวันๆมีเด็กสาวอายุน้อยกว่า 18 ปีจำนวน 20,000 คนให้กำเนิดบุตร รายงานนี้ประมาณว่ามีเด็กสาวอย่างน้อย 70,000 คนต่อปีในประเทศกำลังพัฒนาเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์และระหว่างการคลอดบุตร
คุณอลันน่า อามิเท็จ ผู้อำนวยการแห่งสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติที่นครเจนนีว่ากล่าวว่าเด็กสาวในประเทศกำลังพัฒนามีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการแต่งงานก่อนวัยอันสมควรและต่อการบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ เธอกล่าวว่า กลุ่มเด็กสาวอายุต่ำกว่า 15 ปีในประเทศรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลางเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์และคลอดบุตรสูงกว่าหญิงที่อายุมากกว่าถึงสองเท่าตัว
คุณอลันน่า อามิเท็จ แห่ง UNFPA ที่นครเจนนีว่ากล่าวว่ารายงานของ UNFPA พบว่าเก้าในสิบของเด็กหญิงที่ตั้งครรภ์ขณะอายุต่ำกว่า 18 ปี เกิดจากการแต่งงาน เธอบอกว่าอย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่ามีเด็กหญิง 39,000 คนถูกจับแต่งงานทุกวัน หนึ่งในเก้าของเด็กหญิงที่ถูกจับแต่งงานก่อนวัยนี้ มีอายุน้อยกว่า 15 ปี และการละเมิดสิทธิ์เด็กนี้จะยังดำเนินต่อไปหากครอบครัวและทางการยังละเลยต่อการบังคับเด็กหญิงแต่งงานก่อนวัย
รายงานนี้ย้ำว่าการตั้งครรภ์ก่อยวัยทำให้เด็กหญิงเสียโอกาสทางเศรษฐกิจตลอดชีวิตเริ่มตั้งแต่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ของจีดีพีไปประเทศจีนจนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีในประเทศยูกันดา
รายงานนี้พบว่าในทุกส่วนของโลก เด็กหญิงยากจนและได้รับการศึกษาน้อยจากชนบทมักจะตั้งครรภ์เร็วกว่าเด็กหญิงที่มาจากเขตเมืองที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่า
คุณลุค เดอ เบอร์นีส ที่ปรึกษาอาวุโสด้านสุขภาพมารดาแห่ง UNFPA กล่าวว่าประเทศอาฟริกาในทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่ากับประเทศในทวีปเอเชียใต้มีอัตราการเสียชีวิตของมารดาจากการคลอดบุตรสูงที่สุดในโลก
เขากล่าวว่าอาฟริกาเป็นทวีปที่มีความหลากหลายของคนจากต่างสายพันธุ์ มีความแตกต่างกันหลายอย่าง แต่ข้อเท็จจริงพื้นฐานที่พบก็คือว่าเด็กหญิงอายุน้อยไม่ได้รับการปกป้องคุ้มครองสิทธิ์ในหลายๆประเทศอาฟริกาทั้งในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษและประเทศอาฟริกาที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการ
รายงานของ UNFPA ยังชี้ว่าประเทศกำลังพัฒนาประสบปัญหาการตั้งครรภ์ในหญิงวัยรุ่นรุนแรงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว แต่ยังพบด้วยว่าการตั้งครรภ์ในหญิงวัยรุ่นก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศพัฒนาแล้ว
รายงานนี้ชี้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโทษว่าเป็นความผิดของเด็กหญิงและแนะนำว่าแทนที่จะมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของหญิงวัยรุ่น สังคมควรปรับทัศนคติต่อเรื่องนี้เเละปรับเปลี่ยนมาตรการที่ใช้เเก้ปัญหานี้ รวมทั้งการส่งเสริมให้เด็กหญิงไปโรงเรียนให้นานปีที่สุด หยุดยั้งการบังคับเด็กหญิงแต่งงานและจัดหาการบริการด้านสุขภาพการเจริญพันธุ์ให้แก่วัยรุ่นซึ่งรวมถึงการคุมกำเนิดด้วย
กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ หรือ UNFPA ทำการศึกษาเรื่องนี้เเละพบว่าในประเทศกำลังพัฒนา ทุกวันๆมีเด็กสาวอายุน้อยกว่า 18 ปีจำนวน 20,000 คนให้กำเนิดบุตร รายงานนี้ประมาณว่ามีเด็กสาวอย่างน้อย 70,000 คนต่อปีในประเทศกำลังพัฒนาเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์และระหว่างการคลอดบุตร
คุณอลันน่า อามิเท็จ ผู้อำนวยการแห่งสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติที่นครเจนนีว่ากล่าวว่าเด็กสาวในประเทศกำลังพัฒนามีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการแต่งงานก่อนวัยอันสมควรและต่อการบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ เธอกล่าวว่า กลุ่มเด็กสาวอายุต่ำกว่า 15 ปีในประเทศรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลางเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์และคลอดบุตรสูงกว่าหญิงที่อายุมากกว่าถึงสองเท่าตัว
คุณอลันน่า อามิเท็จ แห่ง UNFPA ที่นครเจนนีว่ากล่าวว่ารายงานของ UNFPA พบว่าเก้าในสิบของเด็กหญิงที่ตั้งครรภ์ขณะอายุต่ำกว่า 18 ปี เกิดจากการแต่งงาน เธอบอกว่าอย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่ามีเด็กหญิง 39,000 คนถูกจับแต่งงานทุกวัน หนึ่งในเก้าของเด็กหญิงที่ถูกจับแต่งงานก่อนวัยนี้ มีอายุน้อยกว่า 15 ปี และการละเมิดสิทธิ์เด็กนี้จะยังดำเนินต่อไปหากครอบครัวและทางการยังละเลยต่อการบังคับเด็กหญิงแต่งงานก่อนวัย
รายงานนี้ย้ำว่าการตั้งครรภ์ก่อยวัยทำให้เด็กหญิงเสียโอกาสทางเศรษฐกิจตลอดชีวิตเริ่มตั้งแต่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ของจีดีพีไปประเทศจีนจนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีในประเทศยูกันดา
รายงานนี้พบว่าในทุกส่วนของโลก เด็กหญิงยากจนและได้รับการศึกษาน้อยจากชนบทมักจะตั้งครรภ์เร็วกว่าเด็กหญิงที่มาจากเขตเมืองที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่า
คุณลุค เดอ เบอร์นีส ที่ปรึกษาอาวุโสด้านสุขภาพมารดาแห่ง UNFPA กล่าวว่าประเทศอาฟริกาในทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่ากับประเทศในทวีปเอเชียใต้มีอัตราการเสียชีวิตของมารดาจากการคลอดบุตรสูงที่สุดในโลก
เขากล่าวว่าอาฟริกาเป็นทวีปที่มีความหลากหลายของคนจากต่างสายพันธุ์ มีความแตกต่างกันหลายอย่าง แต่ข้อเท็จจริงพื้นฐานที่พบก็คือว่าเด็กหญิงอายุน้อยไม่ได้รับการปกป้องคุ้มครองสิทธิ์ในหลายๆประเทศอาฟริกาทั้งในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษและประเทศอาฟริกาที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการ
รายงานของ UNFPA ยังชี้ว่าประเทศกำลังพัฒนาประสบปัญหาการตั้งครรภ์ในหญิงวัยรุ่นรุนแรงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว แต่ยังพบด้วยว่าการตั้งครรภ์ในหญิงวัยรุ่นก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศพัฒนาแล้ว
รายงานนี้ชี้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโทษว่าเป็นความผิดของเด็กหญิงและแนะนำว่าแทนที่จะมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของหญิงวัยรุ่น สังคมควรปรับทัศนคติต่อเรื่องนี้เเละปรับเปลี่ยนมาตรการที่ใช้เเก้ปัญหานี้ รวมทั้งการส่งเสริมให้เด็กหญิงไปโรงเรียนให้นานปีที่สุด หยุดยั้งการบังคับเด็กหญิงแต่งงานและจัดหาการบริการด้านสุขภาพการเจริญพันธุ์ให้แก่วัยรุ่นซึ่งรวมถึงการคุมกำเนิดด้วย