ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สหประชาชาติประกาศโครงการพัฒนาสุขภาพสตรีและเด็กมูลค่า 40,000 ล้านดอลล่าร์


สหประชาชาติประกาศโครงการพัฒนาสุขภาพสตรีและเด็กมูลค่า 40,000 ล้านดอลล่าร์
สหประชาชาติประกาศโครงการพัฒนาสุขภาพสตรีและเด็กมูลค่า 40,000 ล้านดอลล่าร์

เลขาธิการใหญ่สหประชาติ Ban Ki-moon เปิดเผยโครงการด้านสุขภาพมูลค่า 40,000 ล้านดอลล่าร์ระหว่างการประชุมเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ซึ่งเชื่อว่าสามารถช่วยชีวิตสตรีและเด็กทั่วโลกได้หลายสิบล้านคน

บรรดาผู้นำทั่วโลกซึ่งร่วมประชุมที่สำนักงานสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กในสัปดาห์นี้ ทบทวนความคืบหน้าของแผน 15 ปีว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ ปี คศ.2000 โดยเป้าหมาย 8 ประการนั้นมุ่งเน้นที่การขจัดความยากจน ความหิวโหยและโรคระบาด

ในการทบทวนเป้าหมายดังกล่าวเมื่อ 5 ปีที่แล้ว พบว่าหลายข้อยังคงไม่เป็นไปตามกำหนดเวลาที่วางไว้ โดยเฉพาะเป้าหมายในการลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กทารกและยกระดับสุขภาพของมารดา เลขาธิการใหญ่สหประชาติ Ban Ki-moon กล่าวว่าการที่ยังมีสตรีและเด็กจำนวนมากเสียชีวิตจากการขาดอาหาร จากการให้กำเนิดบุตร และจากโรคระบาดที่สามารถควบคุมได้ เป็นเรื่องที่มิอาจยอมรับได้ในคริสศตวรรษที่ 21

นาย Ban Ki-moon ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวสามารถจัดการได้ด้วยการขจัดความไม่เสมอภาคอย่างรุนแรงซึ่งกระทบต่อชีวิตสตรีและเด็ก โดยขยายการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน รวมถึงการตรวจเลือดอย่างง่ายๆ การรับฟังคำแนะนำของแพทย์ การฝึกคลอดบุตร และการฉีดวัคซีน

รัฐบาลประเทศต่างๆ ภาคเอกชน องค์กรการกุศล สมาคมระหว่างประเทศและกลุ่มประชาสังคมร่วมบริจาคเงินทุนก้อนใหม่มูลค่า 40,000 ล้านดอลล่าร์ ให้แก่โครงการช่วยชีวิตสตรีและเด็กทั่วโลกในช่วง 5 ปีข้างหน้า เลขาธิการใหญ่สหประชาติกล่าวว่าเงินทุนก้อนนี้คือการลงทุนอย่างชาญฉลาดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษทั้ง 8 ประการ เพราะเมื่อเด็กและสตรีมีสุขภาพดีขึ้น จะส่งผลดีต่อเป้าหมายด้านอื่นๆ คือช่วยขจัดปัญหาความยากจนและอดอยากหิวโหยได้ส่วนหนึ่ง ช่วยปรับปรุงระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ช่วยต่อสู้กับเชื่อไวรัส HIV/AIDS และยังช่วยสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศได้อีกด้วย

ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ นาง Hillary Clinton ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐ อังกฤษและออสเตรเลีย ตลอดจนมูลนิธิ Bill และ Melinda Gates เพื่อขยายการเข้าถึงการวางแผนครอบครัวสำหรับสตรีราว 100 ล้านคน รวมทั้งลดอัตราการเสียชีวิตของสตรีตั้งครรภ์และเด็กแรกเกิดในแถบเอเชียใต้และแถบทางใต้ของทะเลทรายซะฮาร่าในแอฟริกาในช่วง 5 ปีต่อจากนี้

XS
SM
MD
LG