ในปีพุทธศักราช 2555 หรือเมื่อสองปีที่แล้ว เลขาธิการองค์การสหประชาชาติได้ประกาศปณิธานที่มุ่งต่อต้านการขลิบผู้หญิงโดยหวังว่าจะช่วยสร้างความตื่นตัวแก่สาธารณชนต่อปัญหานี้
รายงานของสหประชาชาติประมาณว่ามีการขลิบเด็กหญิงและผู้หญิงราว 125 ล้านคนทั่วโลกใน 29 ประเทศในแอฟริกาและตะวันออกกลาง
ในกรุงไนโรบี เมืองหลวงของประเทศเคนยา นาย Ban Ki-moon เลขาธิการองค์การสหประชาชาติได้เปิดตัวโครงการรณรงค์ต่อต้านเรื่องนี้ผ่านทางสื่อมวลชนในระดับทั่วโลกเพื่อหาทางปรับเปลี่ยนแนวทางการรายงานข่าวเกี่ยวกับการขลิบผู้หญิงและปรับปรุงทัศนคติต่อเรื่องนี้
นาย Ban Ki-moon เน้นย้ำความจำเป็นในการระดมความพยายามร่วมกันในระดับทั่วโลกเพื่อยุติการขลิบผู้หญิงซึ่งถือเป็นความรุนแรงต่อเพศหญิงอีกรูปแบบหนึ่ง
นาย Ban Ki-moon กล่าวว่าคนรุ่นปัจจุบันจะต้องหยุดยั้งการขลิบผู้หญิงและเด็กหญิง ต้องส่งเสริมให้ผู้ชายและเด็กชายมีส่วนร่วมในการต่อต้านวิถีปฏิบัตินี้ ต้องยกย่องหากผู้ชายในชุมชนออกมาต่อต้านเรื่องนี้ นาย Ban Ki-moon กล่าวว่ามีข่าวดีที่ชุมชนต่างๆ ในเคนยาและประเทศอื่นๆ ในแอฟริกาและทั่วโลกได้เริ่มหาทางยุติการขลิบผู้หญิงแล้ว
การขลิบในผู้หญิงมักกระทำในเด็กหญิงอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 15 ปี ซึ่งอาจทำให้เสียเลือดมากและเกิดปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ ตามมารวมทั้งการเกิดก้อนซีสต์ อาการอักเสบ เป็นหมัน จนถึงอาการแทรกซ้อนจากการคลอดลูกและเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของทารกแรกเกิด
นาย Ban Ki-moon กล่าวว่าสหประชาชาติถือว่าการขลิบผู้หญิงเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนรูปแบบหนึ่ง
นาย Ban Ki-moon กล่าวว่าการหยุดยั้งการขลิบผู้หญิงเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์อย่างไม่ลดละของสหประชาชาติเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสิทธิมนุษยชนของสตรีและเด็กหญิง สหประชาชาติยกย่องสตรีที่ต่อต้านการขลิบหญิงและเรียกร้องสิทธิ์ในการปกป้องร่างกายของตนเองและจำเป็นต้องส่งเสริมให้ทุกคนในสังคมมีส่วนร่วมในการต่อ ต้านวิถีปฏิบัติที่ทำร้ายสตรีและเด็กหญิงนี้
ในประเทศเคนยา ทางการที่นั่นได้ประกาศให้การขลิบหญิงเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายโดยเฉพาะการขลิบเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยมีผลบังคับเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ยังมีการลักลอบขลิบผู้หญิงในเขตชนบทของประเทศอยู่
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Barack Obama แห่งสหรัฐและนาย David Cameron นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวประนามการขลิบผู้หญิงโดยมุ่งกระตุ้นให้คนทั่วโลกร่วมมือกันหยุดยั้งการขลิบผู้หญิง
