ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ Navi Pillay กล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในการประท้วงครั้งใหญ่ในอียิปต์เพิ่มสูงขึ้นทุกวันนับตั้งแต่เหตุการณ์ดังกล่าวปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณ Pillay ระบุว่าจนถึงขณะนี้ทางสำนักงานได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 300 คนจากเหตุการณ์ความรุนแรงสืบเนื่องจากการประท้วง มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 3,000 คนและถูกจับกุมอีกหลายร้อยคน
คุณ Rupert Colville โฆษกของคุณ Navi Pillay แถลงในวันนี้ว่าข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนได้กล่าวประณามการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการสืบสวนบทบาทของกองกำลังรักษาความมั่นคงในเหตุการณ์ความรุนแรงช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณ Colville ระบุด้วยว่าปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่เป็นเสมือนการเติมเชื้อไฟสำหรับการประท้วงครั้งนี้ คือการที่ชาวอียิปต์ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนมาเป็นเวลายาวนาน
โฆษกข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า ประชาชนอียิปต์แสดงให้เห็นชัดเจนว่าปฏิเสธระบบที่ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงรวมถึงการทำทารุณกรรมต่างๆ และว่าข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนเชื่อว่ากฎหมายภาวะฉุกเฉินซึ่งรัฐบาลอียิปต์ใช้ปกครองประเทศมานาน 30 ปีนั้น มิได้ให้ความสำคัญกับในการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเท่าที่ควร
ในขณะเดียวกัน คุณ Colville กล่าวว่าทางข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับประเด็นด้านความปลอดภัยระหว่างการเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ หลังจากที่ตำรวจอียิปต์ถอนกำลังออกจากการควบคุมกลุ่มผู้ประท้วงในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ โฆษกข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้มีการสืบสวนสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเพื่อหาคำตอบเรื่องนี้ โดยคำถามสำคัญคือทำไมตำรวจจึงถอนกำลัง ใครเป็นผู้สั่งการ และจุดประสงค์คืออะไร
ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ Navi Pillay กล่าวว่าการประท้วงในอียิปต์ครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในช่วงหลายสิบปี และเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับอียิปต์ที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมแห่งประชาธิปไตย เสรีภาพและความเสมอภาคมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณ Pillay ยังขอให้รัฐบาลอียิปต์หยุดแทรกแซงการสื่อสาร การคมนาคมขนส่งและอินเตอร์เนต และขอให้ยุติการข่มขู่รังควานผู้สื่อข่าวและสำนักข่าวต่างๆ
