ลิ้งค์เชื่อมต่อ

พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อไทยในอเมริการะบุสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนใช้ไม่ได้กับคดีการเมือง


การเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาในรอบ 6 ปีหลังจากถูกรัฐประหารเมื่อปีพ.ศ.2549 ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้กลุ่มที่ต่อต้านทั้งในไทยและในสหรัฐออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯยกเลิกวีซ่าและส่งตัวกลับประเทศไทยเพื่อดำเนินคดี

การเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากกลุ่มต่อต้านและกลุ่มผู้สนับสนุนในสหรัฐอเมริกาในเกือบทุกรัฐที่อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือน

เช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวในประเทศไทยที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมระท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย

คุณมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันแห่งชาติ กล่าวว่าจะติดตามความคืบหน้าการเรียกร้องให้ทางการสหรัฐยกเลิกวีซ่าและให้ควบคุมตัวพันตำรวจโททักษิณส่งดำเนินคดีในประเทศไทยหลังถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ในข้อหามีผลประโยชน์ทับซ้อนจากคดีที่ดินรัชดา

ซึ่งถือเป็นจุดยืนเดียวกันกับที่ฝ่ายต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรียื่นข้อเรียกร้องและรวมตัวชุมชนในเกือบทุกรัฐที่พ.ต.ท. ทักษิณ เดินทางไปเยือน

ขณะที่ Walter Braunohler โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย กล่าวว่าตามนโยบายแล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐไม่สามารถนำข้อมูลการขอวีซ่าส่วนบุคคลมาชี้แจงได้ในทุกกรณี และยืนยันว่าการประทับตราวีซ่าเข้าประเทศของทางการสหรัฐในทุกกรณีไม่มีนัยทางการเมืองในประเทศไทยเข้ามาเกี่ยวข้อง

ขณะที่ คุณเสก วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าววีโอเอ ว่า รัฐบาลไทยไม่มีแผนที่จะเรียกร้องให้สหรัฐส่งตัวพ.ต.ท. ทักษิณ ษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน และการเดินทางไปเยือนสหรัฐของอดีตนายกรัฐมนตรีถือเป็นการไปเยือนเป็นการส่วนตัว และรัฐบาลไทยไม่เคยทราบและไม่เคยรับรู้แผนการเดินทางครั้งนี้ รวมทั้งไม่มีนโยบายที่จะระงับการเดินทางของพ.ต.ท. ทักษิณ ในต่างประเทศ

ขณะที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว “สยามทาว์ยูเอสเอ” สื่อมวลชนไทยที่นครลอส แองเจลิสว่า สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้นเป็นข้อตกลงระหว่างกันว่าจะยกเว้นคดีทางการเมือง และคดีที่ต้องโทษก็ได้รับการพิพากษาจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจึงถือเป็นคดีการเมือง ขณะที่ผ่านมาเป็นเรื่องการขอความร่วมระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลในการเดินทางไปต่างประเทศและเข้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจบันไม่มีนโยบายจำกัดการเดินทาง ทำสามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯได้ นอกจากนี้ยืนยันว่าไม่มีความร่วมมือหรือการแลกเปลี่ยนใดๆระหว่าง 2 ประเทศกับการขออนุมัติวีซ่าในครั้งนี้

ขณะที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อมวลชนไทยในนครลอส แองเจลิส รายงานตรงกันว่าพันตำรวจโททักษิณ ยกเลิกที่จะเดินทางไปร่วมงานปราศัยและพบปะชาวชุมชนไทยในหัวข้อ "คุยสบายสไตล์ทักษิณ" ที่บริเวณย่านไทยทาวน์ ทั้งๆที่มีกลุ่มผู้สนับสนุนเตรียมจัดงานไว้แล้ว โดยระบุว่าเพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของตำรวจนครลอส แองเจลิส ที่กังวลในความปลอดภัย และมีการเผชิญหน้ากันของกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มผู้ต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรีจำนวนมาก อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าพันตำรวจโททักษิณ จะยังพำนักในสหรัฐอเมริกาต่อไปอีกสักระยะและอาจจะเดินทางไปพบปะกับกลุ่มผู้สนับสนุนตามรัฐต่างๆโดยจะไม่มีการเปิดเผยกำหนดการล่วงหน้า



XS
SM
MD
LG