ทางการท้องถิ่นเตรียมเริ่มปฏิบัติการกู้ซากรถยนต์ของ 2 นักศึกษาไทยที่ประสบอุบัติเหตุขับรถตกเหวในอุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน เช้าวันศุกร์ที่ 1 กันยายนนี้ เผยใช้วิธีส่งหน่วยกู้ภัยโรยตัวเข้าถึงซากรถ หวังกู้ร่างผู้เสียชีวิตให้สำเร็จ
รายงานข่าวจากชุมชนไทยในนครลอส แองเจลิส ได้รับแจ้งถึงความคืบหน้าจากสำนักงานผู้รักษากฎหมาย หรือ เชอรีฟ เขตปกครองเฟรสโน ว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเตรียมเริ่มปฏิบัติเก็บกู้ซากรถและร่างของนักศึกษาไทยสองคนที่ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์ตกลงไปในแม่น้ำคิงส์ เขตอุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน (Kings Canyon) เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม หรือกว่า 1 เดือนที่ผ่านมาแล้ว
โดยมีกำหนดเริ่มปฏิบัติการวันที่ 1 กันยายนนี้ หลังระดับความเชี่ยวของกระแสน้ำลดลงจนอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ Tony Botti จากสำนักงานเชอร์รีฟ เขตปกครองเฟรสโน (Fresno County Sheriff's Office) ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ NAT TV สื่อมวลชนท้องถิ่นของชุมชนไทยในรัฐแคลิฟอร์เนียว่า แม้ระดับความเชี่ยวของกระแสน้ำจะมีความเร็วลดลงต่ำว่า 400 ลูกบาศก์ฟุตต่อวินาทีแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังต้องระมัดระวังอย่างมากในปฏิบัติการครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อปัจจัยด้านกระแสน้ำ เมื่อรวมกับปัจจัยด้านภูมิประเทศที่เป็นแก่งหินและน้ำตกแล้ว ทำให้ปฏิบัติการครั้งนี้ค่อนข้างเสี่ยงอันตราย
โดยเฉพาะในช่วงสำคัญของการนำรถเคลื่อนรถออกจากแก่งหิน ซึ่งกระแสน้ำอาจทำให้รถหมุนจนเกิดอันตรายได้
เจ้าหน้าที่ Tony Botti บอกถึงแนวทางการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า จะยังไม่มีการใช้เฮลิคอปเตอร์ในปฏิบัติการครั้งนี้ แต่จะใช้วิธีนำรถยกส่งสายเคเบิลลงไปด้านล่างกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จะโรยตัวลงไปจากหน้าผา เพื่อที่จะนำไปเกี่ยวกับตัวรถแล้วลากนำมาไว้ในบริเวณเขตน้ำตื้นที่ไหลไม่แรงในบริเวณใกล้เคียง เพื่อมั่นใจว่ารถจะไม่เคลื่อนที่
และแน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดในภารกิจนี้คือการกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากรถและนำขึ้นมาจากน้ำ ส่งให้ถึงมือญาติที่รอคอยมานานกว่า 1 เดือน
ปฏิบัติการครั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แองเจลิส แจ้งว่าพาญาติเดินทางไปสังเกตการณ์ภารกิจกู้ซากรถในครั้งนี้ด้วย ซึ่งจะเริ่มในเวลาประมาณ 6.00 น. เช้าวันศุกร์ ที่ 1 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่นรัฐแคลิฟอร์เนีย
เจ้าหน้าที่เชอร์รีฟ เขตปกครองเฟรสโน บอกว่า เวลาเช้าตรู่เป็นช่วงที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดในการเริ่มภารกิจ เพราะเจ้าหน้าที่สามารถเตรียมการได้ล่วงหน้า ช่วงเช้ามืด อากาศจะค่อยอุ่นขึ้น รวมทั้งระดับน้ำจะไม่สูงมากนัก เพราะที่ผ่านมาได้ตรวจสอบพบว่าระดับน้ำมักจะสูงขึ้นในช่วงเวลากลางวัน
นอกจากนี้ยังยืนยันว่าจะระดมสรรพกำลังเพื่อปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ให้ลุล่วง โดยจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนีย จัดการเรื่องการจราจร และการเข้าออกเส้นทางอุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ
นอกจากนี้ยังมีหน่วยทหาร National Guard เตรียมพร้อมสนับสนุนทันทีหากจำเป็น แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชอรีฟเชื่อว่าหน่วยกู้ภัยที่มีประสบการณ์สูงของเฟรสโนเคาท์ตี้ จะสามารถดำเนินการได้ลุล่วงอย่างแน่นอน
