ที่นิวยอร์ก มีคลาสเรียนพิลาทิสเพื่อแก้อาการปวดคอจากการก้มหน้าดูสมาร์ทโฟนนานๆ จนทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นตึงจนเกิดอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะส่วนคอและกระดูกสันหลัง จะรับบทหนักที่สุด ซึ่งนำไปสู่โรค “ไหล่ห่อคอตก”
การออกกำลังกายแบบ “พิลาทิส” ที่มีมาเกือบ 100 ปี กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และตอนนี้ที่มหานครนิวยอร์ก ได้นำรูปแบบการออกกำลังกายชนิดนี้ มาช่วยแก้ปัญหาและลดความเสี่ยงของการเป็นโรค ไหล่ห่อคอตก อันเป็นผลมาจากการใช้โทรศัพท์มือถือในยุคสังคมก้มหน้าเช่นนี้ได้
ที่นิวยอร์ก มีคลาสเรียนพิลาทิสเพื่อแก้อาการปวดคอจากการก้มหน้าดูสมาร์ทโฟนนานๆ จนทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นตึงจนเกิดอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะส่วนคอและกระดูกสันหลัง จะรับบทหนักที่สุด ซึ่งนำไปสู่โรค “ไหล่ห่อคอตก” หรือที่เรียกว่า Text Neck
Kimberly Fielding ผู้ดูแลคลาสพิลาทิสใน Gramercy Pilates NYC บอกว่า ยิ่งเราก้มหน้าแชทหรือนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือนานเท่าไหร่ จะนำไปสู่ผลเสียต่อร่างกายมากเท่านั้น โดยเมื่อเราก้มหน้านานๆ จะทำให้กระดูกคอและกระดูกสันหลังโค้งผิดรูปได้ ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บในระบบประสาท เส้นประสาทเคลื่อนที่ผิดปกติ กล้ามเนื้อตึงในหลายจุดจนทำให้ปวดศีรษะได้
ที่น่าตกใจกว่านั้น คือ ลูกค้าที่เข้าคลาสพิลาทิสกับ Kimberly จะมีอาการที่คล้ายกัน คือ คอยื่นจนเสียบุคลิก จากการก้มหน้าดูสมาร์ทโฟน แทนที่จะตั้งเป็นแนวตรงกับกระดูกสันหลัง
หากไม่สะดวกในการหาคลาสเรียนพิลาทิส Kimberly ก็แนะนำวิธีการลดความเสี่ยงภาวะไหล่ห่อคอตกจากสมาร์ทโนที่ทำได้ที่บ้าน ด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ เมื่อต้องแชทหรืออ่านข้อความในมือถือก็ให้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูในระดับสายตาแทนการก้มหน้า