ลิ้งค์เชื่อมต่อ

คุยกับลูกอย่างไร ให้เข้าใจวิกฤตโควิด-19?


Kuwaiti kids wear protective face masks
Kuwaiti kids wear protective face masks

ในขณะที่โรงเรียนในหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ ปิดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด และชีวิตประจำวันของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป เด็กๆ จะได้ยินเกี่ยวกับโคโรนาไวรัสกันมากขึ้น แต่พวกเขาอาจไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ หรือไม่ทราบว่ารุนแรงมากน้อยแค่ไหน?

ผู้ปกครองหลายคนอาจกำลังตัดสินใจว่าจะพูดคุยกับลูก ๆ เกี่ยวกับการระบาดของโรคนี้อย่างไร? และบางคนก็กังวลว่า การพูดเรื่องนี้มากเกินไปจะทำให้ลูก ๆ รู้สึกกังวลและหวาดกลัวหรือไม่?

Nicole Poponi คุณแม่ของเด็กหญิง Clara อายุ 10 ขวบ และเด็กหญิง Jane อายุ 12 ขวบ ซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง Audubon รัฐ New Jersey กล่าวว่า เธอกับลูก ๆ พูดคุยถึงเรื่องนี้กันเยอะมาก และนั่งดูข่าวด้วยกันทุกเช้า ส่วนลูกสาวทั้งสองคนบอกว่าพวกเธอคุยเรื่องโคโรนาไวรัสกับเพื่อนที่โรงเรียน และคุณครูก็มักพูดคุยเรื่องนี้ในห้องเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ด้วย

ด้านคุณ Beth Young ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมือง Fort Mill รัฐ South Carolina กล่าวว่า เธอตัดสินใจจำกัดการสนทนากับลูก ๆ ทั้งสี่คน อายุ 8, 10,12 และ 15 ปี เพราะไม่ต้องการให้ลูก ๆ กลัวการเจ็บป่วย และเธอไม่อยากให้ลูก ๆ กังวลถึงเรื่องการเสียชีวิต

สำหรับเด็ก ๆ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 อาจทำให้เกิดอาการป่วยเพียงเล็กน้อยหรือปานกลาง เช่น มีไข้ และไอ แต่สำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้น รวมไปถึงโรคปอดอักเสบซึ่งส่งผลต่อการหายใจ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้่ในเวลาไม่นาน

องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า คนที่มีอาการเล็กน้อยจะฟื้นตัวได้ภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนผู้ที่มีอาการรุนแรงกว่าอาจใช้เวลา 3-6 สัปดาห์ในการฟื้นตัว

ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็กแนะนำให้ผู้ปกครองพยายามสงบสติอารมณ์ และพยายามพูดคุยกับบุตรหลานในแง่บวก และควรศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับโควิด-19 เพื่อที่จะสามารถตอบคำถามของเด็ก ๆ ได้อย่างถูกต้อง

แพทย์หญิง Jamie Howard นักจิตวิทยาที่สถาบัน Child Mind Institute ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร กล่าวว่า การที่ผู้ปกครองอนุญาตให้ลูกถามคำถามได้ และการบอกลูก ๆ ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรในช่วงเวลาเช่นนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญ

ผู้ปกครองยังควรอธิบายถึงวิธีป้องกันต่าง ๆ เช่น การสวมหน้ากากปิดปากและจมูก การล้างมือให้สะอาด และการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing

สำหรับทางโรงเรียนนั้น ที่ผ่านมาคุณครูส่วนใหญ่พยายามที่ยับยั้งความคิดที่ว่า เชื้อโคโรนาไวรัสชนิดนี้มาจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเชื้อชาติใดเชื้อชาติหนึ่ง

โรงเรียนรัฐบาลในนครซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ได้เขียนบนเว็บไซต์ว่า การให้ข้อมูลที่ผิด ๆ นำไปสู่ความหวาดกลัวและความโกรธเคือง ผู้นำของเขตการศึกษาดังกล่าวเรียกร้องให้นักเรียนของตนต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความมีอคติ

เพราะมีรายงานว่ามีนักเรียนชาวเอเชียบางคนที่ตกเป็นเป้าหมายและถูกเลือกปฏิบัติ อันเนื่องมาจากการระบากของโควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

XS
SM
MD
LG