การวิจัยใหม่ในสหรัฐพบว่า การเล่นวิดีโอเกมบางแบบอาจช่วยต้านโรคอ้วนในเด็กได้

พ่อแม่ผู้ปกครองและนักวิชาการมักวิตกว่าเด็กๆ ใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เล่นวิดีโอเกมมากเกินไป และมีเวลาออกกำลังกายน้อยเกินไป ยิ่งตอนนี้ เด็กเป็นโรคอ้วนกันมากเหมือนโรคระบาด การไม่ได้ออกกำลังกายจึงเป็นเรื่องน่าเป็นห่วง

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Brigham Young ในรัฐยูท่าห์ศึกษาพบว่า ความจริงแล้ว การเล่นวิดิโอเกมบางแบบ ก็เป็นวิธีที่ดีที่ทำให้ได้ออกแรงถึงขั้นเหงื่อออกได้เหมือนกัน

Bruce Bailey อาจารย์พลศึกษาที่มหาวิทยาลัย Brigham Young กล่าวว่า การเล่นวิดีโอเกมบางแบบช่วยให้ร่างกายมีกิจกรรมเพิ่มขึ้นในระดับพอประมาณจนถึงระดับคึกคักแข็งขัน แต่จะต้องเลือกเกมที่เหมาะสม การเล่นวิดีโอเกมบางแบบ ช่วยให้ร่างกายเด็ก ๆ มีอัตราการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานสูงขึ้นละน้ำหนักตัวลดลงได้เช่นเดียวกับการออกกำลังกาย

อาจารย์ Bruce Bailey และเพื่อนร่วมงานศึกษาผลกระทบของการเล่นวิดีโอเกมแบบ interactive ซึ่งการเคลื่อนไหวทางร่างกายของผู้เล่น แปลงเป็นการเคลื่อนไหวบนจอความพิวเตอร์ กับเด็ก 39 คน อายุเฉลี่ย 11 ปี นักวิจัยให้เด็ก ๆ เหล่านั้นเล่นวิดีโอเกมที่เรียกว่า Exergames 6 แบบ รวมทั้งเกมชกมวย เกมเต้นรำ และเกมแข่งฟุตบอล และเพื่อเป็นการเปรียบเทียบ ก็ให้เด็กเดินบนสายพาน treadmill ตั้งความเร็วไว้ที่ระดับราว 4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเท่า ๆ กันกับการเล่นวิดีโอเกมด้วย

ผลปรากฏว่า เด็ก ๆ ออกแรงใช้กำลังในการเล่นวิดีโอเกม 5 อย่างใน 6 อย่างที่ให้ทดลอง มากกว่าที่ใช้ในการเดินบนสายพาน treadmill

อาจารย์ Bruce Bailey กล่าวว่า การเล่นวิดีโอเกมแบบนี้ อาจจะไม่ช่วยแก้ปัญหาโรคอ้วนระบาด แต่อาจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้ทำงานด้านรักษาสุขภาพที่พยายามจะเพิ่มกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ออกกำลังกายมากขึ้น โดยเฉพาะในบรรดาเด็ก ๆ ที่ชอบเล่นวิดีโอเกม และไม่ชอบกิจกรรมออกกำลังแบบอื่น

ผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องกันว่า การดูโทรทัศน์ และการเข้าดูข้อมูลตามเว็บไซท์ต่าง ๆ เป็นเวลานาน ตลอดจนการใช้เวลาอย่างไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวออกแรงแข็งขันนั้น มีส่วนทำให้เด็ก ๆ ในอเมริกาเป็นโรคอ้วน ผู้เชี่ยวชาญหวังกันว่า วิดีโอเกมแบบใหม่ ๆ บางแบบที่ส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางกายที่ต้องออกแรง อาจต้านแนวโน้มนี้ได้ โดยการที่ช่วยส่งเสริมให้เด็ก ๆ หันไปหาการออกกำลังหรือการบริหารร่างกายรูปแบบอื่นอย่างเป็นกิจลักษณะ รวมทั้งการเล่นกีฬากลางแจ้ง

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ใช่ว่า Exergames ทุกแบบจะมีประโยชน์เท่ากัน เพราะแต่ละแบบมีระดับการใช้กำลังออกแรงแตกต่างกันไป

นักวิจัยเตือนว่า ผลการศึกษานี้ไม่ได้บ่งบอกว่า วิดีโอเกมทุกรูปแบบมีประโยชน์ และยังจะต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติมอีกต่อไปอีกเกี่ยวกับผลกระทบต่าง ๆ