ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผลการวิจัยใหม่แสดงว่า สตรีที่ใช้ฮอร์โมนเสริมในวัยหมดประจำเดือนมีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกและต่อการเสียชีวิตเพราะโรคนี้


Breast Cancer Check Up
Breast Cancer Check Up

ผลการวิจัยใหม่ของโครงการสุขภาพสตรีแสดงว่า สตรีที่ใช้ฮอร์โมนเสริมในวัยหมดประจำเดือนมีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกและต่อการเสียชีวิตเพราะโรคนี้ การศึกษาวิจัยกับผู้หญิงมากกว่า 12,000 คนในเวลา 11 ปี ทำให้ได้หลักฐานหนักแน่นว่า ผู้หญิงที่ใช้ฮอร์โมนเสริมในวัยหมดประจำเดือนมีอัตราการเป็นมะเร็งทรวงอกหรือมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ และมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้มากกว่าผู้หญิงที่เป็นมะเร็งที่ไม่ได้ใช้ฮอร์โมน

การศึกษาวิจัยกับผู้หญิงมากกว่า 12,000 คนในเวลา 11 ปี ทำให้ได้หลักฐานหนักแน่นว่า ผู้หญิงที่ใช้ฮอร์โมนเสริมในวัยหมดประจำเดือนมีอัตราการเป็นมะเร็งทรวงอกหรือมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ และมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้มากกว่าผู้หญิงที่เป็นมะเร็งที่ไม่ได้ใช้ฮอร์โมน

แพทย์มักแนะนำให้ผู้หญิงใช้ฮอร์โมนเสริมเพื่อลดอาการสะบัดร้อนหรืออาการอื่นๆในวัยหมดประจำเดือนเพื่อช่วยหัวใจและให้มีความสดชื่นไม่แก่ตามวัยมานานหลายปี แต่ราว 8 ปีที่ผ่านมา โครงการสุขภาพสตรีซึ่งได้รับทุนจากรัฐบาลกลางสหรัฐ เปิดเผยว่า ประโยชน์ของการใช้ฮอร์โมนมีน้ำหนักน้อยลง เพราะความเสี่ยงต่างๆ รวมทั้งโรคหัวใจและมะเร็งทรวงอก เรื่องนี้ทำให้การใช้ฮอร์โมนเป็นยาเสริมลดลงราวครึ่งหนึ่ง แต่ผู้หญิงที่ใช้ฮอร์โมนยังมีอยู่เป็นจำนวนหลายล้านคน ตั้งแต่นั้นมา ผู้หญิงที่รับผลกระทบที่เปลี่ยนแปลงชีวิตจากวัยหมดประจำเดือนประสบกับข้อมูลที่สับสนในเรื่องนี้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำว่า ผู้หญิงที่จำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนเสริม ควรใช้ในปริมาณน้อยที่สุดในช่วงเวลาสั้นที่สุด

การวิจัยก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่า เนื้องอกในผู้หญิงที่ใช้ฮอร์โมนมักจะมีขนาดเล็กและบำบัดได้ง่าย และไม่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิเคราะห์ใหม่ของโครงการสุขภาพสตรีที่ลงพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกันฉบับล่าสุด พบว่า ผู้หญิงที่ใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนควบกับฮอร์โมนโปรเจสติน ซึ่งออกขายในชื่อ “Prempro” มักจะมีเนื้องอกที่ดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่กว่า บำบัดได้ยากกว่า และแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองได้มากกว่าในผู้หญิงที่ไม่ใช้ฮอร์โมน ที่สำคัญที่สุดก็คือ มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นไปได้ด้วยว่า ฮอร์โมนเหล่านี้อาจไปเสริมการเติบโตของมะเร็งทรวงอกบางชนิด

เมื่อพิจารณาควบกับงานวิจัยที่เผยแพร่เมื่อปีก่อนซึ่งพบว่า ผู้หญิงที่ใช้ฮอร์โมนมีความเสี่ยงมากขึ้น 70 % ที่จะเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งปอดด้วยแล้ว ผลการวิจัยใหม่นี้ยิ่งเน้นให้เห็นความเสี่ยงของการบำบัดอาการในวัยหมดประจำเดือนด้วยฮอร์โมน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเน้นว่า ความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการใช้ฮอร์โมนเท่านั้น แต่การค้นพบใหม่นี้แสดงให้เห็นความเร่งด่วนของการพิจราณากำหนดเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าผู้หญิงควรใช้ฮอร์โมนเสริมหรือไม หรือใช้เมื่อใด และมีการใช้ในรูปแบบอื่นหรือวิธีใช้แบบอื่นที่ปลอดภัยกว่าอย่างไรหรือไม่ มีการชี้แนะว่า แพทย์กับคนไข้ควรชั่งน้ำหนักประโยชน์และโทษในการตัดสินใจโดยอาศัยพื้นฐานการพิจารณาเป็นรายๆ ไป

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ยังจะต้องศึกษาวิจัยกันอีกมากในเรื่องนี้

XS
SM
MD
LG