ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผลการศึกษาในสหรัฐพบว่า โทรศัพท์มือถือทำให้มีปฏิกิริยาทางเคมีชีวภาพในสมอง


ผลการศึกษาในสหรัฐพบว่า โทรศัพท์มือถือทำให้มีปฏิกิริยาทางเคมีชีวภาพในสมอง
ผลการศึกษาในสหรัฐพบว่า โทรศัพท์มือถือทำให้มีปฏิกิริยาทางเคมีชีวภาพในสมอง

ผลการศึกษาในสหรัฐพบว่า การใช้โทรศัพท์มือถือนาน 1 ชั่วโมงทำให้มีปฏิกิริยาทางเคมีชีวภาพในสมอง แต่ยังบอกไม่ได้ว่า เป็นอันตรายหรือไม่ ผลการศึกษานี้รื้อฟื้นการถกปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือ และเรียกร้องให้มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบที่โทรศัพท์มือถือมีต่อสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า ขณะที่รอผลการศึกษาเพิ่มเติมนั้น เราอาจลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจมี โดยการใช้อุปกรณ์ช่วยที่ไม่ให้ต้องถือโทรศัพท์หรือโทรศัพท์แนบชิดกับร่างกาย และจำกัดเวลาการใช้ให้น้อยลง

การศึกษาวิจัยที่ทำกันมาหลายสิบปีเกี่ยวเรื่องที่ว่า รังสีจากโทรศัพท์มือถือ ก่อให้เกิดเนื้องอกในสมองหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ หรือไม่นั้น ยังได้ผลไม่แน่นอน บรรดาบริษัทโทรศัพท์มือถือต่างยืนยันในความปลอดภัย

ผลการศึกษาใหม่ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐก็ไม่ได้ทำให้มีข้อยุติสำหรับการถกปัญหาเรื่องนี้ และยังมีแง่คิดใหม่ๆ ตามมาด้วย

แพทย์หญิง Nora Volkow กับเพื่อนร่วมงานศึกษาทดสอบกับคนสุขภาพดี 47 คน ในเวลา 1 ปี ผู้ร่วมการทดสอบมีโทรศัพท์มือถือประกบไว้ที่หูทั้งสองข้าง โทรศัพท์ข้างหนึ่งเปิดให้ทำงานแต่ทำให้เงียบเสียงเป็นเวลา 50 นาที ขณะที่โทรศัพท์อีกข้างหนึ่งปิดไว้ หลังจากนั้นผู้ร่วมการทดสอบได้รับการตรวจโดยที่โทรศัพท์ทั้งสองปิด นักวิจัยใช้เทคนิคการตรวจจับภาพไฮเท็คตรวจสมองผู้ร่วมการทดสอบขณะที่ยังมีโทรศัพท์อยู่ที่หู การตรวจจับภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สมองส่วนที่ใกล้กับโทรศัพท์ที่ทำงาน มีปฏิกิริยาทางเคมีชีวภาพสูงขึ้นในอัตรา 7 % โดยที่เซลสมองส่วนที่อยู่ใกล้โทรศัพท์ที่ทำงานนั้น มีการเผาผลาญน้ำตาลให้เป็นพลังงาน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาสำคัญและปกติ แม้ว่าคลื่นวิทยุที่ออกมาจากเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือปัจจุบันจะมีแรงอ่อนมาก แต่ก็สามารถกระตุ้นให้สมองคนเรามีปฏิกิริยาขึ้นมาได้

นายแพทย์ Guiseppe Esposito ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ด้านปรมาณูกล่าวว่า ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นแจ้งชัดว่า สัญญาณโทรศัพท์มือถือสามารถกระตุ้นเซลสมองได้ แต่ก็ยังไม่ได้ตอบคำถามที่มีมานานที่ว่า โทรศัพท์มือถือยังความเสียหายหรือเป็นอันตรายต่อสมองอย่างไรหรือไม่ การศึกษานี้เพียงแต่แสดงให้เห็นว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือสามารถกระตุ้นเซลสมองได้เท่านั้น และนักวิจัยยังบอกไม่ได้ว่า ปฏิกิริยาของสมองดังกล่าว เป็นสิ่งดีหรือไม่ดี

การวิจัยหลายรายพยายามศึกษาความเกี่ยวโยงที่อาจมีระหว่างการใช้โทรศัพท์มือถือกับมะเร็งที่สมอง มีผู้ที่ยังข้องใจสงสัยว่า อันตรายเช่นนั้น อาจเกิดขึ้นหลังจากเวลา 5 ปี 10 ปี หรือ 15 ปีไปแล้วก็เป็นได้

นายแพทย์ Guiseppe Esposito กล่าวว่า ยังจะต้องศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์กันอีกมากในเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องศึกษากับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งที่ใช้มากและใช้น้อย ในระยะยาว

ผู้เชี่ยวชาญหวังว่า การศึกษาของสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐดังกล่าว จะรื้อฟื้นความสนใจในเรื่องความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใหม่ และกระตุ้นให้มีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า ขณะที่รอผลการศึกษาเพิ่มเติมนั้น เราอาจลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจมี โดยการใช้อุปกรณ์ช่วยที่ไม่ให้ต้องถือโทรศัพท์หรือโทรศัพท์แนบชิดกับร่างกาย และจำกัดเวลาการใช้ให้น้อยลง

XS
SM
MD
LG