ลิ้งค์เชื่อมต่อ

'ราคาหุ้นและราคาน้ำมันตก' ผลกระทบจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ และปริมาณน้ำมันดิบโลก


FILE - Wall Street: Dow Jones industrial average.
FILE - Wall Street: Dow Jones industrial average.

ดัชนีราคาหุ้นที่ Wall Street ในนครนิวยอร์ก ลดลงเมื่อตลาดปิดเย็นวันพุธ เฉพาะ S&P 500 ลดลงติดต่อกันมาเป็นวันที่ 7 นับเป็นสถิติในช่วงห้าปีมานี้ที่ดัชนี S&P ลดลงติดต่อกันนานเช่นนี้

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายนนี้

การสำรวจทัศนคติของสำนักจัดทำโพลล์ต่างๆ ซึ่งประกาศผลออกมาทุกวัน บ่งชี้ว่า คะแนนนิยมของผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี คืออดีตรัฐมนตรี ฮิลลารี่ คลินตั้น ตัวแทนพรรคเดโมแครต และนาย โดนัลด์ ทรัมพ์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน เริ่มใกล้เคียงกันมากขึ้นในขณะนี้

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนมีความเชื่อมั่นสูงว่ารัฐมนตรีคลินตั้นจะเป็นผู้มีชัยอย่างแน่นอน ดังนั้น เมื่อมีคะแนนนิยมสูสีกัน นักลงทุนจึงวิตกกังวล และหันมาขายหรือไม่ซื้อหุ้น จึงทำให้ราคาหุ้นลดลง

ปัจจัยอีกอันหนึ่งที่ส่งผลกระทบราคาหุ้น คือราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง

โดยเฉพาะราคาน้ำมันในวันพุธ ที่ลดต่ำลงกว่า 3% ทั้งในตลาดสหรัฐและตลาดโลก หลังจากที่มีการเผยแพร่ตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบในสต็อก ที่เพิ่มสูงถึง 14.4 บาร์เรล ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม

แต่บรรดานักวิเคราะห์ ที่หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal สำรวจความคิดเห็นมา คาดกันไว้ว่า ปริมาณที่เพิ่มน่าจะตกราวๆ 1 ล้านบาร์เรลเท่านั้น

ในขณะเดียวกัน ชาติภาคีองค์การประเทศผู้ผลิตน้ำมันส่งออก (OPEC) ก็ยังทำความตกลงกันไม่ได้แน่นอนว่า จะจัดโควต้าลดการผลิตเพื่อพยุงหรือเพิ่มราคาน้ำมันอย่างไร แม้จะระบุจำนวนไว้ว่าน่าจะลดการผลิตลงระหว่าง 200,000-700,000 บาเรลต่อวัน

แต่มีชาติภาคี OPEC หลายชาติที่ได้รับการยกเว้นหรือกำลังขอการยกเว้น เช่นอิรัก อิหร่าน ไนจีเรีย และลิเบีย โดยอ้างว่ากำลังประสบอุปสรรคขัดขวางการผลิตอยู่แล้ว

XS
SM
MD
LG