นาย Howard Schultz ซึ่งเป็น CEO ของ Starbucks เสนอว่า ในระหว่างวันพุธจนถึงวันศุกร์นี้ Starbucks จะให้กาแฟฟรีแก่ลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มของร้านให้เพื่อนร่วมชาติหนึ่งคน
เขาอธิบายว่า ความมุ่งหมาย คือช่วยให้ผู้คนได้สร้างความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ในขณะที่รอให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการเลือกตั้งมา ทำงานตามหน้าที่ และย้ำประเด็นด้วยการลงโฆษณาในนสพ. เช่น New York Times, Washington Post และ USA Today ว่า ในยามที่ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาท้าทายหลายเรื่อง ตั้งแต่การปิดทำการของรัฐฐาล ไปจนถึงเรื่องเพดานหนี้ การแสดงความมีน้ำใจเล็กๆน้อยๆ และความสุภาพอ่อนน้อม สามารถทำให้เกิดความแตกต่างได้
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ CEO ของ Starbucks แสดงจิตสำนึกทางสังคม และความคิดเห็นทางการเมืองของประเทศ
เมื่อปี ค.ศ. 2011 เขาออกมาเร่งเร้าให้วงการธุรกิจคว่ำบาตรการบริจาคเงินให้กับการหาเสียงเลือกตั้ง จนกว่านักการเมืองจะเลิกทะเลาะและกล่าวหาซึ่งกันและกัน มีธุรกิจมากกว่า 100 รายเข้าร่วมการประท้วงดังกล่าว และในปีต่อมา Starbucks ผลิตสินค้าขึ้นโดยเฉพาะสำหรับหาเงินไปสมทบทุนให้กับโครงการ Create Jobs for USA
เมื่อต้นปีนี้ Starbucks ขอร้องลูกค้าว่าอย่าสูบบุหรี่ในบริเวณใกล้ๆร้าน และเมื่อเดือนที่แล้ว ก็ขอร้องลูกค้าอีกว่า อย่าพกปืนติดตัวไปที่ร้าน
สำหรับการรณรงค์ครั้งใหม่นี้ นาย Marshall Cohen นักวิเคราะห์การขายปลีกของกลุ่ม NPD ให้ความเห็นว่า ไม่น่าจะได้ผลทางการเมือง เพราะไม่มีบทลงโทษที่ทำให้นักการเมืองต้องวิตก เช่นการถูกถอดออกจากตำแหน่ง
แต่นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่า ที่จะได้ผล คือการตลาดสำหรับ Starbucks โดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาวที่ให้ความสนใจกับสินค้า brand name ที่มีจิตสำนึกทางการเมือง
เขาอธิบายว่า ความมุ่งหมาย คือช่วยให้ผู้คนได้สร้างความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ในขณะที่รอให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการเลือกตั้งมา ทำงานตามหน้าที่ และย้ำประเด็นด้วยการลงโฆษณาในนสพ. เช่น New York Times, Washington Post และ USA Today ว่า ในยามที่ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาท้าทายหลายเรื่อง ตั้งแต่การปิดทำการของรัฐฐาล ไปจนถึงเรื่องเพดานหนี้ การแสดงความมีน้ำใจเล็กๆน้อยๆ และความสุภาพอ่อนน้อม สามารถทำให้เกิดความแตกต่างได้
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ CEO ของ Starbucks แสดงจิตสำนึกทางสังคม และความคิดเห็นทางการเมืองของประเทศ
เมื่อปี ค.ศ. 2011 เขาออกมาเร่งเร้าให้วงการธุรกิจคว่ำบาตรการบริจาคเงินให้กับการหาเสียงเลือกตั้ง จนกว่านักการเมืองจะเลิกทะเลาะและกล่าวหาซึ่งกันและกัน มีธุรกิจมากกว่า 100 รายเข้าร่วมการประท้วงดังกล่าว และในปีต่อมา Starbucks ผลิตสินค้าขึ้นโดยเฉพาะสำหรับหาเงินไปสมทบทุนให้กับโครงการ Create Jobs for USA
เมื่อต้นปีนี้ Starbucks ขอร้องลูกค้าว่าอย่าสูบบุหรี่ในบริเวณใกล้ๆร้าน และเมื่อเดือนที่แล้ว ก็ขอร้องลูกค้าอีกว่า อย่าพกปืนติดตัวไปที่ร้าน
สำหรับการรณรงค์ครั้งใหม่นี้ นาย Marshall Cohen นักวิเคราะห์การขายปลีกของกลุ่ม NPD ให้ความเห็นว่า ไม่น่าจะได้ผลทางการเมือง เพราะไม่มีบทลงโทษที่ทำให้นักการเมืองต้องวิตก เช่นการถูกถอดออกจากตำแหน่ง
แต่นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่า ที่จะได้ผล คือการตลาดสำหรับ Starbucks โดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาวที่ให้ความสนใจกับสินค้า brand name ที่มีจิตสำนึกทางการเมือง
