ลิ้งค์เชื่อมต่อ

หน่วยงาน Door of Hope จัดทำประตูลับแห่งความหวังสำหรับเด็กทารกที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งไม่ให้ต้องเผชิญอันตรายตามลำพัง


หน่วยงานพัฒนาเอกชนแห่งหนึ่งในโจฮันเนสเบริ์กสร้างจุดรับเด็กทารกที่แม่ต้องการทอดทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กถูกนำไปทิ้งในถังขยะและตามข้างถนนเพราะเด็กมักเสียชีวิตก่อนได้รับความช่วยเหลือ

บนถนนสายเล็กๆในย่าน Berea ย่านยากจนที่สุดย่านหนึ่งในโจฮันเนสเบริ์ก มีประตูฝังเอาไว้ในผนังกำแพง ดูเผินๆแล้ว เหมือนกับตู้รับจดหมาย แต่จริงๆแล้วประตูที่ว่านี้เป็นจุดรับเด็กทารกที่แม่ต้องการทอดทิ้ง โดยแม่สามารถเปิดประตูแล้วนำลูกไปวางไว้ข้างในได้อย่างปลอดภัย

คุณฟรานซีน มะฟังโก้แห่งหน่วยงาน Door of Hope กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเมื่อมีคนนำเด็กไปวางไว้ในจุดรับเด็ก กล้องถ่ายภาพและระบบเซ็นเซ่อร์ที่ติดอยู่ภายในจะทำงานและส่งเสียงกริ่งเตือนให้เจ้าหน้าที่ประจำเวรในขณะนั้นรู้ว่ามีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นที่จุดรับเด็กและไปเช็คดูภาพบนจอคอมพิวเตอร์ เมื่อเห็นเด็กอยู่ในตู้รับ เจ้าหน้าที่จะเดินไปนำตัวเด็กทารกเข้าไปดูแลในห้องดูแลเด็กทารกของหน่วยงานซึ่งอยู่ด้านในห่างจากกำแพงไปเพียงไม่กี่เมตร

ตู้รับเด็กทารกที่แม่ทอดทิ้งนี้เปิดขึ้นเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ตอนนั้น แม่นำลูกไปทิ้งตามถังขยะ ตามที่จอดรถและตามข้างทางในเมืองโจฮันเนสเบริ์ก เด็กทารกที่ถูกทอดทิ้งส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะได้รับความช่วยเหลือล่าช้า

คุณเชอรอล อัลเลน ผู้อำนวยการหน่วยงาน Door of Hope กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเธอมองเห็นปัญหานี้เเละเข้าใจความรู้สึกของตัวผู้หญิงที่จำเป็นต้องทิ้งลูกแต่ไม่อยากเปิดเผยตัวเอง ทำให้เกิดความคิดสร้างจุดที่แม่สามารถนำลูกไปวางไว้อย่างปลอดภัยแทนที่จะนำไปทิ้งในถังขยะ เด็กทารกจะมีโอกาสรอดชีวิต

ตั้งแต่เริ่มโครงการนี้มา มีเเม่นำเด็กมาวางไว้ในตู้รับเด็กทารกนี้ 148 คน มีครอบครัวบุญธรรมทั้งในพื้นที่และในต่างประเทศมารับเด็กๆไปเลี้ยงดู

คุณก็อดวิลและคุณนคังวี คีคานา ได้รับเด็กผู้หญิงสองคนพี่น้องไปเป็นบุตรบุณธรรมจากหน่วยงาน Door of Hope ในกรณีของเด็กหญิงทั้งสองคนนี้ พวกเขารู้ชื่อแม่ของเด็กและคิดว่าเด็กๆควรรู้ว่าพ่อแม่แท้จริงเป็นใครเพราะจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเด็กเองเมื่อพวกเขาโตขึ้น

คุณก็อดวิล คีคานา คุณพ่อบุญธรรมกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเขาอยากให้ลูกสาวบุญธรรมรู้ว่าตนเองเป็นใครมาจากไหนเมื่อโตขึ้น เขาเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้พ่อเเม่ตัดสินใจทอดทิ้งลูก

ด้านคุณนคังวี คีคานา คุณแม่บุญธรรมกล่าวว่าจำเป็นต้องสอนให้ลูกบุญธรรมเข้าใจว่าไม่ควรฝังใจกับอดีตและติดยึดว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน หากโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังไม่รู้ว่าพ่อเเม่จริงเป็นไคร ก็ต้องมองว่าตัวเองโชคดีที่มีครอบครัวบุญธรรมมอบชีวิตใหม่ให้

โครงการตู้รับเด็กทารกไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เพราะเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆทั่วโลก แต่ส่วนมากมักประสบกับปัญหา ในขณะที่ผู้ต่อต้านกล่าวว่าโครงการตู้รับเด็กทารกถูกทอดทิ้งส่งเสริมให้ผู้หญิงนำลูกตัวเองไปทิ้ง ประเด็นนี้คุณเชอรอล อัลเลน ผู้อำนวยการหน่วยงาน Door of Hope ไม่เห็นด้วย

เธอบอกว่าโครงการนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้เเม่ทิ้งลูกเพราะแม้ไม่มีโครงการนี้ ผู้หญิงที่ไม่ต้องการลูกก็ยังจะนำลูกไปทิ้งอยู่ดี เธอเข้าใจดีว่าการตัดสินใจนำลูกไปทิ้งไม่ใช่เรื่องง่ายๆและคงไม่มีใครอยากทำเช่นนั้น

ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีหน่วยงานพัฒนาเอกชนอีกหลายหน่วยงานที่เอาอย่างหน่วยงาน Door of Hope และได้จัดตั้งโครงการตู้รับเด็กทารกที่แม่ทอดทิ้งในเมืองอื่นๆทั่วประเทศอาฟริกาใต้แล้ว
XS
SM
MD
LG