คุณ Matthew Reading หนึ่งในนักศึกษาที่นำผลงานชุดเจ้าสาวแห่งอนาคตมาจัดแสดง เล่าถึงแรงจูงใจในการออกแบบว่าชุดเจ้าสาวในปัจจุบันนั้นดูเทอะทะ ดูธรรมดาเกินไปและไม่น่าตื่นเต้น เขาจึงนำแผงควบคุมวงจรไฟฟ้าเล็กๆแบบกันน้ำได้เรียกว่า Lilypad และมอเตอร์ขนาดจิ๋วติดตั้งเข้าไปในชุดเจ้าสาวแห่งอนาคตที่ออกแบบขึ้นใหม่ เพื่อให้ชุดเจ้าสาวนั้นมีไฟระยิบระยับและยังสามารถเคลื่อนไหวขยับปกเสื้อหรือเลื่อมลายต่างๆขึ้นลงได้โดยอัตโนมัติ
อีกมุมหนึ่ง คุณ Veronika Olsen ออกแบบเสื้อแจ็คเก็ตแบบใหม่ซึ่งเน้นที่ประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก เธอเรียกเสื้อตัวนี้ว่าเสื้อลดความเครียด โดยเธอได้ติดตัวประมวลผลคอมพิวเตอร์หรือ microprocessor ขนาดจิ๋วไว้ที่เสื้อแจ็คเก็ตนั้น เมื่อผู้สวมใส่มีระดับความเครียดเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับหนึ่ง โปรแกรมที่ใส่ไว้ใน microprocessor จะสั่งให้เครื่องเล่นเพลงเปิดเพลงโดยอัตโนมัติ ผ่านหูฟังไปยังผู้สวมใส่ทำให้ผ่อนคลายใจเย็นลง เสื้ออัจฉริยะที่ว่านี้มีตัวเซนเซอร์ติดไว้ที่แขนเสื้อเพื่อตรวจวัดปริมาณเหงื่อซึ่งซึมออกมาตามผิวหนังเวลาที่เกิดความเครียดมากๆ
เสื้อผ้าแห่งอนาคตอีกชุดหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากในงานนี้คือ ชุดที่สามารถเปลี่ยนสีได้เองตามความต้องการของผู้สวมใส่ คุณ Tabor Barranti ผู้ออกแบบอธิบายว่าหากวันไหนอยากเปลี่ยนสีชุดจากสีเขียวเป็นสีแดง ก็สามารถทำได้ง่ายๆด้วยการตั้งโปรแกรมที่ microprocessor ซึ่งติดไว้กับชุดที่ว่านี้
อาจารย์ Annet Couwenberg แห่งภาควิชาเส้นใยสถาบันศิลปะ MICA ผู้ริเริ่มแนวคิดให้นักศึกษานำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้กับความสามารถทางการออกแบบเสื้อผ้า บอกว่าในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆยิ่งเล็กลงและนำมาใช้งานได้ง่ายขึ้น เราจะยิ่งเห็นการพัฒนาในการออกแบบเสื้อผ้า ซึ่งเป็นการนำศิลปะ เทคโนโลยีและแฟชั่นมาผสมรวมกัน อาจารย์ Couwenberg ยังบอกด้วยว่าแม้เสื้อผ้าที่นักศึกษานำมาจัดแสดงนี้จะเป็นเพียงแค่ตัวอย่างหรืองานต้นแบบ แต่เชื่อว่าต่อไปเสื้อผ้าอัจฉริยะหรือเสื้อผ้าแห่งอนาคตเหล่านี้จะมีอิทธิพลใหญ่หลวงจนอาจถึงขั้นปฏิวัติวงการแฟชั่นในอนาคตก็เป็นได้
