สภาพอากาศไม่ดีมีผลกระทบต่อตลาดข้าวเอเชียไม่มากเท่าใดนัก

ไต้ฝุ่นใหญ่ เมฆี โหมกระหน่ำภาคเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เกิดความหวั่นเกรงขึ้นมาในบริเวณที่เป็นส่วนสำคัญในการให้ผลผลิตข้าวของประเทศนี้ ไต้ฝุ่นความเร็วลม 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำลายพืชผลหลายอย่าง รวมทั้งข้าว ข้าวโพด และพืชผลอื่นๆ

กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์กล่าวว่า ฟิลิปปินส์สูญเสียพืชผลคิดเป็นมูลค่า 195 ล้านดอลล่าร์ แต่ข้าวที่เพาะปลูกไว้เสียหายไปเพียง 5 % เขากล่าวว่า ตอนที่พายุเมฆีเข้าฟิลิปปินส์นั้น ฟิลิปปินส์เก็บเกี่ยวข้าวไปแล้วราว 90 %

Salvador Salacup รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์กล่าวว่า ปริมาณข้าวที่เก็บตุนไว้สำหรับการอาหารแห่งชาติยังมีพอสำหรับราว 52 วัน ดังนั้นในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ จึงยังมีข้าวพอสำหรับความจำเป็นพื้นฐาน

ฟิลิปปินส์ปลูกข้าวไม่พอกับความต้องการในประเทศและเป็นประเทศที่นำข้าวเข้ามากที่สุดในโลก ตอนนี้ฟิลิปปินส์มีข้าวล้นฉางเหลือจากที่สั่งเข้าเมื่อปีที่แล้วเพื่อชดเชยส่วนที่เสียไปเนื่องจากพายุไต้ฝุ่นใหญ่ 2 ลูก เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์บอกว่า ยังไม่มีแผนการที่จะซื้อข้าวเพิ่ม

คาดว่าราคาข้าวจะยังสูงขึ้นต่อไป สมาคมโรงสีข้าวในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกรายหนึ่งเก็งการณ์ว่า ปริมาณข้าวจะลดลง 10 % - 20 % เนื่องจากน้ำท่วมใหญ่ และก่อนน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักในฤดูฝนนั้น ทั้งประเทศไทยและกัมพูชา
ผู้ส่งออกข้าวอีกประเทศหนึ่ง คาดว่าจะได้ผลผลิตข้าวน้อยลงเนื่องจากความแห้งแล้ง

ในปากีสถาน ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อีกรายหนึ่ง เกิดน้ำท่วมใหญ่ ทำให้ได้ผลผลิตข้าวน้อยลง 40 % และนักเศรษศาสตร์คาดกันว่า การที่ราคาข้าวสาลีสูงขึ้น อาจทำให้ผู้บริโภคหันมาหาข้าวจ้าว และราคาข้าวจ้าวก็จะสูงขึ้นด้วย แต่นักเศรษฐศาสตร์ที่สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ กล่าวว่า ราคาข้าวสจะไม่สูงขึ้นมากนัก

Samarendu Mohanty นักเศรษฐศาสตร์ที่สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศเห็นว่า ตลาดข้าวจะไม่มีปฏิกิริยามากนัก เพราะตอนนี้มีข้าวมากพอสำหรับขาย เขากล่าวว่า ผู้ขายและผู้ส่งออกข้าวที่เขาพบในการประชุมที่ภูเก็ตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บอกว่าในตลาดตอนนี้ไม่มีผู้ซื้อมากนัก

เขาอธิบายว่า สาเหตุหลักก็คือ อินเดียมีข้าวเก็บไว้ราว 21 ล้านตัน อินเดียส่งข้าวส่วนใหญ่ไปขายในแอฟริกาและตะวันออกกลาง และบางส่วนแก่รัฐบาลประเทศอื่นๆ และถ้าหากบังกลาเทศต้องการซื้อข้าว ก็จะซื้อผ่านทางรัฐบาลอินเดีย โดยที่จะไม่ไปซื้อที่ตลาด เพราะบังกลาเทศมีความตกลงเป็นการภายในกับอินเดียที่จะซื้อข้าวจากอินเดียในราคาที่กำหนดกันไว้แล้ว

นักเศรษฐศาสตร์ Samarendu Mohanty กล่าวว่า แม้กระทั่งรัฐบาลไทยก็มีข้าวเก็บไว้เป็นปริมาณมากมาย ราคาข้าวไทยซึ่งเป็นราคามาตรฐานของตลาดโลก อยู่ที่ตันละ 551 ดอลล่าร์ หรือราว 20 % สูงกว่าราคาเมื่อเดือนกรกฎาคม แต่ต่ำกว่าราคาของเมื่อ 2 ปีก่อนมาก
ซึ่งตอนนั้นข้าวได้ราคาสูงเป็นประวัติการณ์ที่ตันละ มากกว่า 1,000 ดอลลาร์

นักเศรษฐศาสตร์สถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศกล่าวว่า สำหรับตอนนี้ ข้อจำกัดต่างๆ ของรัฐบาลกำลังเป็นสิ่งที่ทำให้ตลาดตึงตัว ไม่ใช่สภาพอากาศ และว่า ตราบใดที่รัฐบาลเก็บตุนข้าวและทำความตกลงภายในระหว่างกันเองแล้ว ตราบนั้นราคาข้าวก็จะสูงขึ้นต่อไป