ลูกอมขนมหวานและช็อคโกแลตคือธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ามหาศาล บริษัทขนมหวานขนาดใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลกขายสินค้าได้รวมกันมูลค่ามากกว่า 40,000 ล้านดอลล่าร์เมื่อปี คศ.2005 และมีเกษตรกรผู้ปลูกต้นโกโก้มากกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก อย่างไรก็ตามเกษตรกรจำนวนมากยังคงอยู่ในภาวะยากจนอดอยาก เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะไร่โกโก้ของพวกเขานั้นยังไม่มีประสิทธิภาพด้านการผลิตอย่างเต็มที่ดังที่ควรจะเป็น
คุณ Howard-Yana Shapiro หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทขนมหวานรายใหญ่ Mars Incorporated ระบุว่าเกษตรกรผู้ปลูกต้นโกโก้ทางภาคตะวันตกของอาฟริกา สามารถผลิตเมล็ดโกโก้ได้เฉลี่ยเพียง 400 กิโลกรัมต่อโกโก้ 1 เฮคแตร์หรือราว 6 ไร่ ซึ่งน้อยกว่าศักยภาพการผลิตที่แท้จริงถึง 10 เท่า
เพื่อลดความแตกต่างดังกล่าวและเพิ่มศักยภาพการผลิตของเกษตรกร บริษัท Mars ได้สนับสนุนด้านเงินทุนในโครงการวิจัยรหัสพันธุกรรมของต้นโกโก้ ในขณะที่นักวิจัยอีกกลุ่มหนึ่งในฝรั่งเศสก็พยายามถอดรหัสพันธุกรรมของโกโก้พันธุ์ Criollo เช่นกัน
คุณ Bill Guyton ประธานมูลนิธิโกโก้โลก ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนธุรกิจโกโก้และการทำไร่โกโก้แบบยั่งยืน กล่าวว่าโครงการวิจัยดังเช่นที่บริษัท Mars และนักวิจัยในฝรั่งเศสทำอยู่ จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสายพันธุ์โกโก้ให้มีความทนทานต่อศัตรูพืชและโรคระบาดมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตโกโก้ได้ และนั่นหมายถึงเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้จะมีรายได้เพิ่มและมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นด้วย ถือเป็นประโยชน์ทั้งตัวเกษตรกรเองและต่อบริษัทผู้ผลิตช็อคโกแลต
คุณ Shapiro แห่งบริษัท Mars กล่าวว่าต้องการเห็นธุรกิจนี้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต เช่นเดียวกับการเติบโตของต้นโกโก้ที่ผ่านการรับรองคุณภาพและพัฒนาสายพันธุ์ และต้องการเห็นเกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้นมั่นคงขึ้นด้วย คุณ Shapiro ระบุว่าข้อมูลรหัสพันธุกรรมของโกโก้นี้จะเปิดเผยต่อสาธารณชนโดยไม่มีการควบคุมหรือสิทธิบัตรใดๆ และคาดว่าเมล็ดพันธุ์โกโก้ที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์แล้วนั้นจะถึงมือของเกษตรกรได้ในช่วง 3 ปีจากนี้
