นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ สองคนจากมหาวิทยาลัย Washington State และมหาวิทยาลัย Arizona State เสนอแนวคิดเรื่องการส่งมนุษย์ขึ้นไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร ในลักษณะเดียวกับที่ผู้อพยพจากยุโรปเคยเดินทางเข้าไปตั้งรกรากและสร้างชีวิตใหม่ในทวีปอเมริกาเหนือเมื่อกว่าสองร้อยปีที่แล้ว แต่นักวิชาการด้านอวกาศทั้งสองนี้ชี้ว่า การส่งมนุษย์ให้เดินทางไปยังดาวอังคารแบบเที่ยวเดียวโดยไม่ต้องเตรียมเรื่องการเดินทางกลับ จะช่วยให้โครงการดังกล่าวเป็นจริงได้เร็วขึ้น คือภายใน 20 ปีข้างหน้า และจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ราว 80 %
นักวิทยาศาสตร์ทั้งสองให้เหตุผลว่า การหาดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ เป็นอาณานิคมของมนุษย์นั้นจะเป็นหลักประกันและช่วยลดความเสี่ยงจากมหันตภัยที่อาจทำลายล้างมวลชีวิตต่างๆ บนพื้นโลก และว่าดาวอังคารมีสภาพแสดล้อมที่สามารถช่วยสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ได้ เพราะมีบรรยากาศห่อหุ้ม มีแรงดึงดูดที่พื้นผิว มีแหล่งน้ำ มีคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ และมีแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็น อย่างไรก็ตามแม้ว่าดาวอังคารจะอยู่ห่างจากโลกด้วยระยะเดินทางราวหกเดือนเท่านั้น แต่นักวิทยาศาสตร์คู่นี้ก็คิดว่าผู้ที่เหมาะจะเดินทางไปน่าจะเป็นคนสูงอายุในวัย 60 ปี เพราะการขาดแคลนบริการทางการแพทย์ที่ดีจะทำให้ช่วงอายุของนักบุกเบิกรุ่นใหม่นี้สั้นลง และการต้องรับกับกัมมันตภาพรังสีจะทำลายเซลสืบพันธ์ทำให้เป็นหมัน จึงไม่เหมาะที่จะส่งหนุ่มสาววัยเจริญพันธ์ขึ้นไปยังดาวอังคาร
ขณะนี้ประธานาธิบดีโอบาม่ามีแผนจะส่งมนุษย์ขึ้นไปสำรวจดาวอังคารภายในอีก 15 ปีข้างหน้าอยู่แล้ว และโฆษกองค์การ NASA ก็ยืนยันว่าต้องการจะส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคาร โดยให้สามารถเดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัย
