เจ้าหน้าที่การทูตอาวุโสจากรัสเซียประจำองค์การสหประชาชาติในนครเจนีวาประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันจันทร์ ด้วยเหตุผลว่า “รู้สึกอับอาย” ต่อการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ส่งกองทัพรุกรานยูเครนเมื่อ 3 เดือนก่อน
บอริส บอนดาเรฟ ยื่นใบลาออกต่อ เยนนาดี แกติลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซีย ก่อนจะออกแถลงการณ์ประณามการก่อสงครามของรัสเซียที่ระบุว่า “การก่อสงครามรุกรานโดยปูตินต่อยูเครน ซึ่งในความเป็นจริงก็เหมือนเป็น(สงคราม)ต่อโลกตะวันตกทั้งหมด ไม่เพียงแต่เป็นอาชญากรรมต่อประชาชนชาวยูเครนเท่านั้น แต่อาจจะเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดต่อประชาชนของรัสเซีย จากการที่ตัวอักษร Z ตัวหนา (ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การสนับสนุนสงคราม) ทลายความหวังและโอกาสของการมีสังคมอิสระและรุ่งเรืองในประเทศของเรา”
บอนดาเรฟ ยังกล่าวด้วยว่า ผู้ที่ผลักดันสงครามครั้งนี้ต้องการเพียงสิ่งเดียว นั่นก็คือ “การได้อยู่ในอำนาจตลอดไป ใช้ชีวิตในพระราชวังโออ่าหรูหราอันไร้รสนิยม ล่องเรือยอทช์ที่มีขนาดระวางเรือและต้นทุนพอ ๆ กับกองทัพเรือรัสเซียทั้งกอง เสวยอำนาจไร้จำกัดและการได้รับการเว้นโทษอย่างสมบูรณ์”
เขาระบุด้วยว่า เพื่อให้คนเหล่านั้นได้ทุกอย่างดังหวัง พวกเขายินดีที่จะสละชีวิตผู้คนมากเท่าที่จะทำได้ และ “ชาวรัสเซียและยูเครนนับพันได้เสียชีวิตลงไปแล้วเพียงเพราะสิ่งนี้”
นอกจากนั้น บอนดาเรฟ กล่าวว่า ในชีวิตการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่การทูตรัสเซียมา 20 ปี “ระดับการโกหกและความไม่เป็นมืออาชีพในกระทรวงการต่างประเทศ(รัสเซีย) มีแต่เพิ่มขึ้นมาตลอด”
อดีตนักการทูตรัสเซียรายนี้บอกกับสำนักข่าวเอพีด้วยว่า ยังไม่มีเจ้าหน้าที่รัสเซียคนใดแสดงปฏิกิริยาต่อสิ่งที่เขาทำไป แต่ยอมรับว่า ตนเองยังต้องกังวลกับปฏิกิริยาที่มอสโกจะมีต่อเขาอยู่ดี
และเมื่อถามว่า เพื่อนร่วมงานคนอื่นรู้สึกเช่นเดียวกับเขาหรือไม่ บอนดาเรฟ บอกว่า “ไม่ใช่นักการทูตรัสเซียทุกคนที่เป็นพวกกระหายสงคราม พวกเขาเป็นคนมีเหตุผล แต่พวกเขาต้องปิดปากเงียบเท่านั้น”
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี
