ผลการสำรวจความคิดเห็นของชาวรัสเซียที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีในวันอาทิตย์ ชี้ว่านายกรมต.วลาดิมีร์ ปูตินเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง

การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียสิ้นสุดลงแล้ว และผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ไปใช้สิทธิ์ ปรากฎว่า นายกรมต. วลาดิมีร์ ปูตินชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงมากพอที่จะไม่ต้องมีการลงคะแนนเสียงรอบที่สอง อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง กล่าวว่า ได้รับรายงานมากกว่าสองพันฉบับที่กล่าวว่ามีการทุจริตในการเลือกตั้งครั้งนี้

Golos องค์กรอิสระที่ติดตามดูการเลือกตั้งครั้งนี้ กล่าวว่า รายงานที่กล่าวหาว่ามีการทุจริตในการเลือกตั้ง ระบุถึง “carousel voting” คือการใช้รถโดยสารบรรทุกผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงไปตามคูหาเลือกตั้งต่างๆเพื่อลงคะแนนเสียงด้วย

มีอาสาสมัครติดตามดูการเลือกตั้งในรัสเซียครั้งนี้ราวๆสองแสนคน นอกเหนือไปจากหกแสนคนที่ขึ้นทะเบียนไว้สำหรับการใช้กล้องที่ติดตั้งไว้ตามคูหาเลือกตั้งเกือบหนึ่งแสนแห่งติดตามดูทางอินเทอร์เน็ต

อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินกล่าวแสดงความหวังเมื่อตอนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันอาทิตย์ ว่าจะมีประชาชนไปใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมาก เพราะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งมีความสำคัญมาก

แต่ผู้นำฝ่ายค้าน นาย บอริส เนมท์ซอฟ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการหลอกลวง ไม่มีความถูกต้องตามกฎหมาย และว่าจะจัดการประท้วงในวันจันทร์นี้ และจะไม่ยอมรับว่านายปูตินเป็นประธานาธิบดีที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ถ้าผลการนับคะแนนยืนยันผลการสำรวจความคิดเห็นผู้ที่ไปใช้สิทธิ์การเลือกตั้ง นายวลาดิมีร์ ปูตินจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่สาม หลังจากที่ดำรงตำแหน่งนี้มาสองสมัยในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2000 – 2008 และเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากนั้น จนถึงปัจจุบัน โดยได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีดิมิทริ เม็ดเวียเดียฟ สหายเก่าแก่

นายกรมต. ปูตินเริ่มชีวิตการทำงานด้วยการเป็นสายลับให้หน่วยงาน KGB ของสหภาพโซเวียตเป็นเวลา 15 ปี ก่อนจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานการรักษาความมั่นคงของรัฐบาล หลังจากที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย เหลือแต่รัสเซีย

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1999 ประธานาธิบดี บอริส เยลท์ซิน แต่งตั้งให้เขาเป็นนายกรมต. และเมื่อประธานาธิบดีเยลท์ซินลาออกจากตำแหน่งก่อนกำหนดในเดือนธันวาคมปีเดียวกันนั้น เขาเข้ารักษาการณ์ตำแหน่งประธานาธิบดี และได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 2000

ฝ่ายที่สนับสนุนนายกรมต. ปูตินเห็นว่าเขาเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะในการต่อสู้ปราบปรามกบฎแบ่งแยกดินแดนในสาธารณรัฐเชชเนีย แต่ฝ่ายที่คัดค้านมองว่า เขาจำกัดการปฏิรูปที่เป็นประชาธิปไตย และไม่แก้ปัญหาคอร์รับชั่นที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ