ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ตรวจสอบข่าว: รัสเซียยังคงกล่าวหาสหรัฐฯ เรื่องห้องทดลองอาวุธชีวภาพในยูเครน


A laboratory worker holds samples of poultry entrails to test for bird flu in a laboratory in the eastern Ukrainian city of Donetsk on December 7, 2005 (Alexander Khudotioply/Reuters)
A laboratory worker holds samples of poultry entrails to test for bird flu in a laboratory in the eastern Ukrainian city of Donetsk on December 7, 2005 (Alexander Khudotioply/Reuters)
นิโคไล ปาตรูเชฟ (Nikolai Patrushev)

นิโคไล ปาตรูเชฟ (Nikolai Patrushev)

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย

"ระหว่างปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย (ในยูเครน) มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงหลายอย่างที่ยืนยันว่ามีห้องทดลองที่ใช้ในการการพัฒนาอาวุธชีวภาพ และการจัดส่งอาวุธเหล่านั้น"

ข้อมูลเท็จ

รัสเซียยังคงเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดเรื่องห้องทดลองลับในยูเครน โดยมุ่งโจมตีสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้ใช้ห้องทดลองดังกล่าวในการพัฒนาอาวุธชีวภาพ ท่ามกลางการตอบโต้ทางทหารของกองทัพยูเครนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์หลายส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน และการถอยร่นของกองทัพรัสเซีย

A Ukrainian soldier helps a wounded comrade on the road in liberated territory in the Kharkiv region on September 12, 2022. (Kostiantyn Liberov/AP)
A Ukrainian soldier helps a wounded comrade on the road in liberated territory in the Kharkiv region on September 12, 2022. (Kostiantyn Liberov/AP)

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว บรรดาประเทศสมาชิกของที่ประชุมด้านอาวุธชีวภาพระหว่างประเทศ เริ่มการประชุมอย่างเป็นทางการเพื่อตรวจสอบคำร้องของรัสเซียเมื่อเดือนมิถุนายน โดยรัสเซียอ้างว่าสหรัฐฯ กำลังพัฒนาอาวุธชีวภาพอย่างลับ ๆ ในยูเครน แม้ว่าข้อกล่าวหานี้ได้ถูกบอกปัดไปแล้วหลายครั้งก็ตาม

เมื่อวันที่ 12 กันยายน นิโคไล ปาตรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย และคนใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยังได้ย้ำถึงข้อกล่าวหานี้ว่า ห้องทดลองอาวุธชีวภาพของสหรัฐฯ ในยูเครน สร้างอันตรายต่อทหารรัสเซีย

"เครือข่ายห้องทดลองที่สหรัฐฯ สร้างขึ้นทั่วยูเครน สร้างภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของประชาชน โดยเชื่อว่ามีห้องทดลองเหล่านี้มากกว่า 30 แห่งเฉพาะในยูเครน" ปาตรูเชฟกล่าวด้วยว่า ""ระหว่างปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย (ในยูเครน) มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงหลายอย่างที่ยืนยันว่ามีห้องทดลองที่ใช้ในการการพัฒนาอาวุธชีวภาพ และการจัดส่งอาวุธเหล่านั้น"

อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานใด ๆ ยืนยันว่า สหรัฐฯ กำลังพัฒนาอาวุธชีวภาพในยูเครนจริง ๆ

เมื่อเดือนมีนาคม วาซิลี เนเบนซยา ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ชูประเด็นเรื่องห้องทดลองลับในยูเครน ต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น โดยระบุว่ามีเอกสารที่พบทหารรัสเซียรวมรวมได้ระหว่างการบุกยึดยูเครนที่แสดงให้เห็นว่า ผู้เชี่ยวชาญของยูเครนได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำในแม่น้ำหลายสายในยูเครน ภายใต้การดูแลของนักวิทยาศาสตร์อเมริกัน เพื่อนำไปตรวจสอบเชื้อโรคต่าง ๆ ที่พบในแหล่งน้ำเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อโรคผ่านทางแหล่งน้ำในยูเครน ก่อนที่จะส่งตัวอย่างที่เก็บได้นั้นไปยังสหรัฐฯ

"คำถามคือ ทำไมสหรัฐฯ จึงต้องการตัวอย่างของเชื้อโรคอันตรายที่สามารถแพร่กระจายตามแม่น้ำในยูเครนได้?"

อย่างไรก็ตาม รายงานขององค์กรไม่แสวงหากำไร the Intercept ชี้ว่า นักชีววิทยาชาวรัสเซียเองทั้งในและนอกประเทศ ต่างระบุว่า ข้อกล่าวหาเรื่องการวิจัยอาวุธชีวภาพนั้นถูกปั้นแต่งขึ้นมา และบรรดานักชีววิทยาเหล่านั้นต่างกล่าวว่า ข้อมูลที่รัสเซียนำมาแสดงชี้ให้เห็นถึงการเก็บตัวอย่างเชื้อโรคเพื่อการวิจัยด้านสาธารณสุขเท่านั้น โดยมิได้บ่งชี้ถึงจุดประสงค์ทางการทหารแต่อย่างใด

ดร.เยฟเกนี เลวิทิน นักจุลชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัย มอสโก สเตท (Moscow State University) กล่าวกับสำนักข่าว Radio Free Europe\Radio Liberty ว่า "การกล่าวเท็จโดยเจตนา" ของรัสเซียนั้น สามารถเห็นได้ชัดเจนสำหรับใครก็ตามที่อ่านเอกสารที่รัสเซียแนบมาอย่างละเอียด และว่า "นั่นคือกลไกการทำงานของโฆษณาชวนเชื่อ เริ่มจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยข้อมูลที่เป็นเท็จและไม่มีหลักฐานรองรับ และเมื่อไปสอบถามประชาชนรัสเซีย ราว 90% ต่างเชื่อข้อมูลไม่ไม่ถูกต้องเหล่านั้น"

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขององค์กรไม่แสวงหากำไร Bulletin of the Atomic Scientists ยืนยันเช่นกันว่า ไม่มีหลักฐานว่าการวิจัยของสหรัฐฯ ในยูเครนสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นอันตรายใด ๆ นอกจากนี้ ยูเครนยังได้เปิดเผยกิจกรรมเหล่านั้นอย่างละเอียดในรายงานประจำปีของที่ประชุมด้านอาวุธชีวภาพ (Biological Weapons Convention) ซึ่งสาธารณชนสามารถเข้าไปอ่านได้

แถลงการณ์ของสถานทูตสหรัฐฯ ในยูเครน ระบุว่า โครงการในยูเครนนั้นมีขึ้นเพื่อรวบรวมและเก็บตัวอย่างเชื้อโรคและสารพิษต่าง ๆ เพื่อจัดการความกังวลด้านความมั่นคง และรับรองว่ายูเครนสามารถตรวจพบและรายงานการระบาดที่เกิดจากเชื้อโรคอันตรายได้ก่อนที่จะสร้างภัยคุกตคามด้านความมั่นคงขึ้น โดยโครงการวิจัยดังกล่าวได้รับเงินทุนทั้งจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และองค์การอนามัยโลก

จัสติน หลิง นักข่าวในแคนาดา รายงานว่า รัฐบาลรัสเซียใช้แนวคิดเรื่องการทลายห้องทดลองของสหรัฐฯ ในยูเครน เป็นหนึ่งในข้ออ้างในการบุกรุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในความเป็นจริง ผู้เชี่ยวชาญด้านชีวภาพเตือนว่า การที่รัสเซียโจมตีเมืองต่าง ๆ ในยูเครนนั้น "เพิ่มความเสี่ยงที่เชื้อโรคต่าง ๆ อาจเล็ดลอดออกไป" ตามรายงานของรอยเตอร์

ทั้งนี้ ทฤษฎีสมคมคิดเรื่องอาวุธชีวภาพ ได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจุดประสงค์และการทำงานที่แท้จริงของโครงการลดภัยคุกคามด้านชีวภาพ (Biological Threat Reduction Program) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อคริสต์ทศวรรษ 1990 โดยมีจุดประสงค์เพื่อ "ลดภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ สารเคมี และอาวุธชีวภาพ ที่หลงเหลือมาจากยุคสหภาพโซเวียต รวมทั้งในรัสเซีย"

ในอดีต สหภาพโซเวียตมักใช้วิธีเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโครงการวิจัยด้านชีวภาพของสหรัฐฯ แต่วิธีดังกล่าวได้ถูกระงับไปชั่วคราวในปี 1988 ก่อนที่จะถูนำมาปัดฝุ่นอีกครั้งในปี 1995 ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประธานาธิบดีปูติน หนึ่งในนั้นคือการกล่าวหาอย่างเลื่อนลอยว่า สหรัฐฯ คือผู้ปล่อยเชื้อโคโรนาไวรัสที่เป็นสาเหตุของโควิด-19 ออกจากห้องทดลองลับ

นิโคไล ปาตรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย กล่าวหาด้วยว่า นอกจากในยูเครนแล้ว สหรัฐฯ ยังมีห้องทดลองลับในจอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน และอาร์เมเนีย รวมทั้งยังกล่าวหาว่า สหรัฐฯ ได้ฝึกฝูงนกอพยพให้เป็นผู้นำอาวุธชีวภาพเหล่านั้นไปยังรัสเซีย ตลอดจนกล่าวหาว่า ทหารยูเครนได้ฉีดเซรั่มพิเศษเข้าสู่ร่างกายของพวกเขาเพื่อให้กลายเป็น "สัตว์ประหลาดดุร้าย" ในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย

รายงานบอกด้วยว่า สื่อของทางการจีนมักนำข้อมูลเท็จของรัสเซียเหล่านี้ไปเผยแพร่ในประเทศจีนด้วย

  • ที่มา: ฝ่ายตรวจสอบข่าว Polygraph ของวีโอเอ
XS
SM
MD
LG