ลิ้งค์เชื่อมต่อ

นักรณรงค์สิทธิ์การเจริญพันธุ์เรียกร้องสิทธิ์สตรีต่อการทำแท้งที่ปลอดภัย


นักรณรงค์สิทธิ์การเจริญพันธุ์เรียกร้องสิทธิ์สตรีต่อการทำแท้งที่ปลอดภัย
นักรณรงค์สิทธิ์การเจริญพันธุ์เรียกร้องสิทธิ์สตรีต่อการทำแท้งที่ปลอดภัย

บรรดาผู้รณรงค์สิทธิสตรีด้านการเจริญพันธุ์ประมาณว่าปีหนึ่งปีหนึ่งมีการทำแท้งมากกว่า 45 ล้านรายทั่วโลกและกว่าครึ่งหนึ่งเป็นการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตตามมาในกลุ่มผู้หญิงที่อายุยังน้อย

กลุ่มนักรณรงค์เรื่องสิทธิสตรีกับการเจริญพันธุ์ร่วมประชุมถกเรื่องการทำแท้งเมื่อเร็วๆนี้ที่ Woodrow Wilson Center ในกรุงวอชิงตัน


คุณไลล่า เฮสสินี่ ผู้อำนวยการแห่ไอป้าส หน่วยงานพัฒนาเอกชนที่รณรงค์เรื่องการยุติการบาดเจ็บและการเสียชีวิตของผู้หญิงจากการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย กล่าวต่อที่ประชุมว่า ทุกปีทุกปี มีหญิงตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผนถึง 87 ล้านราย นับเป็น 41 เปอร์เซ็นต์ของการตั้งครรภ์ทั้งหมดทั่วโลก เป็นตัวเลขที่สูง ต้องศึกษาว่าอะไรเป็นสาเหตุของการตั้งครรภ์แบบไม่ได้วางแผน อาทิ ปัญหาความรุนแรงทางเพศหรือวิธีคุมกำเนิดแพงเกินไป เธอบอกว่า ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผนถึง 33 ล้านรายใช้วิธีคุมกำเนิดอยู่แล้ว แสดงให้เห็นว่าการคุมกำเนิดใช้ไม่ได้ผลหรือผู้ใช้อาจใช้ไม่ถูกวิธี

คุณเฮสสินี่ นักรณงค์ป้องกันการเสียชีวิตจากการทำแท้ง กล่าวว่า ทุกปีมีหญิงทำแท้ง 46 ล้านราย และ 21 ล้าน 6 แสนรายเป็นการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใหญ่ การทำแท้งแบบไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาทางซีกโลกใต้ โดยประมาณว่า 30-60 เปอร์เซ็นต์ของการตั้งครรภ์ในหญิงวัยรุ่นจบลงด้วยการทำแท้ง

อัตราการเสียชีวิตจากการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยสูงมากในชาติต่างๆทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่าในทวีปอาฟริกา โดยเฉพาะในกลุ่มหญิงวัยรุ่น

คุณเฮสสินี่ นักรณงค์กล่าวว่าราวสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของประชากรเพศหญิงทั่วโลกอยู่ในประเทศที่มีบริการทำแท้งหากต้องการ ในแต่ละประเทศมีกฏควบคุมต่างกัน ยี่สิบหกเปอร์เซ็นต์ของประชากรหญิงทั่วโลกอาศัยในชาติที่อนุญาติให้ทำแท้งได้เฉพาะในกรณีเพื่อช่วยชีวิตแม่ บางชาติไม่อนุญาติการทำแท้งโดยเด็ดขาด อาทิ ในนิคารากัว เอลซัลวาดอร์ ชิลี โดมินิกันริพลับบลิค มัลต้า และเดอะวาติกันซิตี้

ทางด้านคุณเจนนิเฟอร์ เรดเน่อร์ ที่ปรึกษาแห่ง International Women’s Health Coalition กล่าวว่าบ่อยครั้งที่สิทธิ์ขั้นพื้นฐานของผู้หญิงถูกละเลย

คุณเรดเน่อร์ กล่าวว่า ในหลายประเทศ ผู้หญิงและเด็กหญิงขาดสิทธิ์ขั้นพื้นฐานในการตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับร่างกายของตน เธอเห็นว่าจำเป็นต้องมีโครงการความร่วมมือระหว่างหลายหน่วยงานในแต่ละประเทศเพื่อส่งเสริมเด็กหญิงให้ได้รับการศึกษาในโรงเรียนและเข้าถึงบริการทางสุขภาพ ไม่ถูกบังคับให้แต่งงานก่อนวัยสมควร เพื่อให้เด็กหญิงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ได้อย่างราบรื่นปลอดภัย กลายเป็นสมาชิกที่มีบทบาททางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นการทำแท้งว่าถูกกฏหมายหรือไม่ถูกกฏหมาย ปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย ยังคงเป็นประเด็นที่สร้างความอื้อฉาว นำมาถกกันอย่างเผ็ดร้อนและเป็นประเด็นการต่อสู่มาตลอดระหว่างกลุ่มคนเห็นด้วยกับกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วย

คุณทารีน ฮ็อดจ์สัน ผู้ประสานงานนานาชาติแห่ง Christian Action Network ประจำที่เมืองเคปทาวน์ ในประเทศอาฟริกาใต้ ไม่เห็นด้วยการกับทำแท้ง โดยแย้งว่า การทำแท้งจะถูกกฏหมายหรือผิดกฏหมายล้วนแต่ไม่ปลอดภัยต่อเด็กทารกเพราะเป็นการยุติชีวิตทารกในครรภ์ แล้วยังไม่ปลอดภัยต่อผู้หญิงเองด้วย

คุณฮ็อดจ์สันกล่าวว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ในการควบคุมร่างกายตนเอง แต่ว่าเมื่อตั้งครรภ์แล้วก็ไม่มีทางเลือกเพราะเด็กในครรภ์ก็มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ เรื่องสิทธิ์ิ์ของเด็กทารกในครรภ์ต้องนำมาพิจารณากันด้วย

เธอบอกว่าไม่ควรอนุญาติการทำแท้งไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม เพราะกรณีที่มารดาเสี่ยงต่อชีวิตจากการตั้งครรภ์มีน้อยมาก และถ้ามีกรณีเกิดขึ้น แพทย์ก็ต้องพยายามรักษาชีวิตของทั้งมารดาและเด็กเอาไว้ทั้งคู่ ไม่ใช่เลือกว่าจะรักษาชีวิตไหนเพียงชีวิตเดียว


XS
SM
MD
LG