เมื่อลูกสุนัขเข้าโครงการฝึกเพื่อช่วยนำทางคนตาบอด

สำหรับบรรดาคนตาบอดและผู้ที่มีปัญหาเรื่องการมองเห็นแล้ว การใช้สุนัขนำทางจะช่วยให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น แต่การที่จะฝึกสุนัขนำทางที่ดีได้นั้นต้องใช้เวลามาก และหลายๆ คนก็เริ่มฝึกตั้งแต่พวกมันยังเป็นลูกสุนัขอยู่

ยกตัวอย่าง น้องหมาอายุ 8 สัปดาห์ จำนวน 5 ตัวที่เดินทางมาที่สนามบินทิปตันในเมืองฟอร์ตมีด รัฐแมรีแลนด์ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในเวลานั้น พวกมันยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักและขี้เล่นเหมือนลูกสุนัขทั่วๆ ไป แต่ในตอนนี้ลูกสุนัขพันธุ์ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ และเยอรมันเชพเพิร์ด เหล่านั้น กำลังจะกลายเป็นสุนัขที่ทำประโยชน์ให้แก่สังคม กล่าวคือ หากน้องหมาทั้ง 5 ตัวแสดงให้เห็นว่า สามารถเป็นสุนัขนำทางได้ พวกมันจะได้ช่วยให้ผู้ที่สูญเสียการมองเห็นและมีความบกพร่องทางสายตามีชีวิตที่ดีขึ้น

ลูกสุนัขซึ่งกำลังจะกลายเป็นเพื่อนผู้จงรักภักดีของมนุษย์ เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมขององค์กรที่มีชื่อว่า Guiding Eyes for the Blind ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ขนส่งสัตว์ตลอดจนบุคคลที่มีความเสี่ยง ตามที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ขององค์กร และได้เดินทางจากสำนักงานใหญ่ขององค์กรในเมืองยอร์คทาวน์ ไฮทส์ รัฐนิวยอร์ก ไปยังรัฐแมรีแลนด์ด้วยเที่ยวบินที่ชื่อ "Pilots To The Rescue"

น้องหมาทั้ง 5 ตัวเกิดในเมืองยอร์คทาวน์ ไฮทส์ โดยที่พวกมันต้องอยู่กับแม่และพี่น้องในช่วง 2 เดือนแรกของชีวิตก่อน สุนัขที่อายุยังน้อยเหล่านี้ เกิดขึ้นจากการผสมพันธุ์ขึ้นมาจากพ่อพันธุ์แม่พันธ์ที่มีสุขภาพและภาวะอารมณ์ที่ดี ซึ่งคำว่า “ภาวะอารมณ์” ในที่นี้ เป็นคำนิยามที่ใช้บรรยาลักษณธที่สุนัขตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมรอบตัวมัน

อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาการผสมพันธุ์เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้ลูกสุนัขเหล่านี้กลายเป็นสุนัขนำทางได้ เพราะพวกมันจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกสุนัขอีกด้วย

นอกจากนี้แล้ว พวกมันจะต้องได้รับการเลี้ยงดูโดยอาสาสมัครที่เรียกว่า Puppy Raisers หรือผู้รับเลี้ยงสุนัข เพื่อเปลี่ยนลูกสุนัขที่ร่าเริงขี้เล่นให้กลายเป็นสุนัขที่มีมารยาทดีและสามารถเข้าสังคมได้ดี

โดยรวมแล้ว คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการเป็นสุนัขนำทางที่ดี ก็คือ การเป็นสุนัขที่มาจากการผสมพันธุ์ที่ดี การได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี การมีความประพฤติดี และการเข้าสังคมได้ดี

ทั้งนี้ กระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ตลอดจนการทดสอบสุนัขธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสุนัขนำทางนั้นใช้เวลาประมาณ 14 ถึง 16 เดือน โดยการฝึกจะเริ่มต้นด้วยพื้นฐานต่างๆ เช่น การจดจำชื่อ พฤติกรรม และคำสั่งต่างๆ เช่น "นั่ง" และ "หมอบ" จากนั้น ผู้ฝึกสอนจะเริ่มใช้คำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้น และจะมอบลูกสุนัขให้กับ Puppy Raisers ซึ่งจะเป็นผู้สอนให้น้องหมาได้รู้จักโลกและวิธีการปฏิบัติตัว

ซินดี เทท (Cindy Tait) ผู้จัดการโครงการ Guiding Eyes for the Blind's Puppy บอกกับผู้สื่อข่าวเอพี ว่า ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ จะช่วยคอยจับตาดูการฝึกอบรมและคอยให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการฝึกน้องหมาด้วย

หลังกระบวนการปูพื้นฐานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักให้กับน้องหมาเสร็จสิ้นแล้ว ลูกสุนัขทั้งหลายจะต้องกลับไปที่ศูนย์ฝึกอบรม Guiding Eyes เพื่อฝึกการเป็นสุนัขนำทางอย่างเป็นทางการ ซึ่งการฝึกอย่างเป็นทางการนี้จะชี้ให้เห็นว่า พวกมันจะได้เป็นสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอด หรือสุนัขให้ความช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆ หรือไปเป็นสัตว์เลี้ยงของใครบางคน

ดีนาลี (Denali) เป็น 1 ใน 4 ลูกสุนัขที่ถูกนำตัวขึ้นเครื่องบินกลับไปยัง Guiding Eyes และในวันที่ลูกสุนัขตัวใหม่มาถึง เทท ถึงกับน้ำตาในไหลขณะที่มองดู แคโรลิน เชเฟอร์ (Carolyn Schaefer) อาสาสมัครที่เป็น Puppy Raiser บอกลาน้องหมาลาบราดอร์สีเหลืองและพามันไปที่เครื่องบิน

เทท บอกว่า ช่วงเวลาที่ว่านั้น เป็นตอนที่ยากมาก แต่เมื่อคิดว่า สุนัขนำทางนั้นจะสามารถช่วยผู้คนได้มากมาย ความรู้สึกเศร้างที่เกิดขึ้นก็จะเบาบางลงได้เอง

และถึงแม้ว่าการบอกลาจะเป็นเรื่องที่ยาก บรรดา puppy raisers ก็ยังกลับมารับเลี้ยงสุนัขตัวแล้วตัวเล่าเสมอ อย่างเช่น เทท ซึ่งได้เลี้ยงน้องหมามามากมายหลายตัวแล้ว และตอนนี้เธอก็กำลังดูแลเจ้าเคนจิ (Kenji) อนาคตสุนัขนำทางตัวที่ 11 ของเธออยู่

• ที่มา : เอพี