บริษัท Forum Energy ซึ่งมีชาวฟิลิปปินส์เป็นเจ้าของ แต่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในอังกฤษอยากจะเริ่มขุดหาแก๊สธรรมชาติในบริเวณ Reed Bank ในทะเลจีนใต้ และกำลังรอการอนุมติจากรัฐบาลฟิลิปปินส์อยู่
การสำรวจเมื่อกว่าห้าปีที่แล้ว ระบุว่า Reed Bank อาจมีแก๊สธรรมชาติราวๆ 3.4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และมีความเป็นได้ว่า จริงๆแล้ว อาจมีมากกว่า 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตด้วยซ้ำไป
นาย Manuel Pangilinan ประธานคณะกรรมการของ Philex Petroleum ซึ่งถือหุ้นของ Forum Energy อยู่ 65% อยากจะร่วมลงทุนขุดแก๊สกับ CNOOC (China National Offshore Oil Corporation) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจน้ำมันของจีน เพราะฟิลิปปินส์ไม่แท่นขุดเจาะน้ำมันให้ใช้ได้เอง
จีนเองก็ยืนยันเสมอมาว่าต้องการลงทุนร่วมกับฟิลิปปินส์ ปัญหาอยู่ตรงที่ฟิลิปปินส์ยังไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการได้อย่างไรเพื่อไม่ให้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ประเด็นปัญหาตามความเห็นของฟิลิปปินส์อยู่ตรงที่จีนไม่ยอมรับเขตเศรษฐกิจตามที่อนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ที่ให้ถือว่า บริเวณห่างจากชายฝั่งไป 370 กิโลเมตรเป็นเขตเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ
ฟิลิปปินส์กล่าวไว้ว่า การที่จีนอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และที่ต้องนำเรื่องให้คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาก็เพราะได้พยายามเจรจากับจีนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 แล้ว แต่ไม่สำเร็จ
ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์กล่าวว่า จะสนับสนุนการร่วมลงทุนกับจีนในภูมิภาค แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายของฟิลิปปินส์ กล่าวคือ 60% ต้องมีเจ้าของเป็นฟิลิปปินส์ อีก 40% เป็นของชาวต่างชาติได้
ประธานาธิบดี Benigno Aquino ของฟิลิปปินส์กล่าวไว้เมื่อเร็วๆนี้ด้วยว่า จะให้การสนับสนุนการลงทุนร่วมดังกล่าวตราบเท่าที่ฟิลิปปินส์เป็นผู้เก็บค่าภาคหลวง
นักวิชาการ Li Mingjiang ผู้ประสานงานจีนศึกษาของ Rajaratnam School of International Studies ที่มหาวิทยาลัย Nanyang Technological ในสิงคโปร์ กล่าวว่า เรื่องค่าภาคหลวงคือประเด็นสำคัญของความขัดแย้ง
เขาบอกว่า ความหมายโดยนัยก็คือ ถ้าทำตามกฎหมายของฟิลิปปินส์ ก็เท่ากับว่าจีนยอมรับสิทธิ์อธิปไตยของฟิลิปปินส์ในบริเวณดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพยากรพลังงาน
แต่ศาสตราจารย์ Carl Thayer ของ Defense Force Academy ออสเตรเลีย ไม่เชื่อว่าจีนจะยอมรับเรื่องนี้ และว่า ก่อนที่ฟิลิปปินส์จะส่งเรื่องให้คณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศพิจารณา บรรดาผู้สังเกตการณ์คิดว่า การลงทุนร่วมระหว่าง Forum Energy กับจีน ยังอาจเป็นไปได้ และจะเป็นการพัฒนาและแบ่งปันทรัพยากรที่ช่วงชิงกัน
แต่เมื่อส่งเรื่องไปแล้ว และคาดว่าจะต้องใช้เวลารอการพิจารณาตัดสินกันอย่างน้อย 2-3 ปี โอกาสความเป็นไปได้ก็ยิ่งน้อยลง
การสำรวจเมื่อกว่าห้าปีที่แล้ว ระบุว่า Reed Bank อาจมีแก๊สธรรมชาติราวๆ 3.4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และมีความเป็นได้ว่า จริงๆแล้ว อาจมีมากกว่า 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตด้วยซ้ำไป
นาย Manuel Pangilinan ประธานคณะกรรมการของ Philex Petroleum ซึ่งถือหุ้นของ Forum Energy อยู่ 65% อยากจะร่วมลงทุนขุดแก๊สกับ CNOOC (China National Offshore Oil Corporation) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจน้ำมันของจีน เพราะฟิลิปปินส์ไม่แท่นขุดเจาะน้ำมันให้ใช้ได้เอง
จีนเองก็ยืนยันเสมอมาว่าต้องการลงทุนร่วมกับฟิลิปปินส์ ปัญหาอยู่ตรงที่ฟิลิปปินส์ยังไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการได้อย่างไรเพื่อไม่ให้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ประเด็นปัญหาตามความเห็นของฟิลิปปินส์อยู่ตรงที่จีนไม่ยอมรับเขตเศรษฐกิจตามที่อนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ที่ให้ถือว่า บริเวณห่างจากชายฝั่งไป 370 กิโลเมตรเป็นเขตเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ
ฟิลิปปินส์กล่าวไว้ว่า การที่จีนอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และที่ต้องนำเรื่องให้คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาก็เพราะได้พยายามเจรจากับจีนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 แล้ว แต่ไม่สำเร็จ
ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์กล่าวว่า จะสนับสนุนการร่วมลงทุนกับจีนในภูมิภาค แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายของฟิลิปปินส์ กล่าวคือ 60% ต้องมีเจ้าของเป็นฟิลิปปินส์ อีก 40% เป็นของชาวต่างชาติได้
ประธานาธิบดี Benigno Aquino ของฟิลิปปินส์กล่าวไว้เมื่อเร็วๆนี้ด้วยว่า จะให้การสนับสนุนการลงทุนร่วมดังกล่าวตราบเท่าที่ฟิลิปปินส์เป็นผู้เก็บค่าภาคหลวง
นักวิชาการ Li Mingjiang ผู้ประสานงานจีนศึกษาของ Rajaratnam School of International Studies ที่มหาวิทยาลัย Nanyang Technological ในสิงคโปร์ กล่าวว่า เรื่องค่าภาคหลวงคือประเด็นสำคัญของความขัดแย้ง
เขาบอกว่า ความหมายโดยนัยก็คือ ถ้าทำตามกฎหมายของฟิลิปปินส์ ก็เท่ากับว่าจีนยอมรับสิทธิ์อธิปไตยของฟิลิปปินส์ในบริเวณดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวกับทรัพยากรพลังงาน
แต่ศาสตราจารย์ Carl Thayer ของ Defense Force Academy ออสเตรเลีย ไม่เชื่อว่าจีนจะยอมรับเรื่องนี้ และว่า ก่อนที่ฟิลิปปินส์จะส่งเรื่องให้คณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศพิจารณา บรรดาผู้สังเกตการณ์คิดว่า การลงทุนร่วมระหว่าง Forum Energy กับจีน ยังอาจเป็นไปได้ และจะเป็นการพัฒนาและแบ่งปันทรัพยากรที่ช่วงชิงกัน
แต่เมื่อส่งเรื่องไปแล้ว และคาดว่าจะต้องใช้เวลารอการพิจารณาตัดสินกันอย่างน้อย 2-3 ปี โอกาสความเป็นไปได้ก็ยิ่งน้อยลง