ชาวปาเลสไตน์เตรียมตัวรับเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ในช่วงบรรยากาศหม่นหมองจากภาวะสงครามที่มีตำรวจอิสราเอลออกตรวจและคุมเข้มอย่างหนัก ขณะที่ ภาวะอดอยากในกาซ่ารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
อิสราเอลส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันคนออกตรวจตามถนนและซอกซอยของพื้นที่เมืองเก่า (Old City) ในนครเยรูซาเลมที่ซึ่งผู้คนนับหมื่นน่าจะเดินทางมาในแต่ละวันเพื่อทำพิธีภาวนาสักการะที่มัสยิด อัล อัคซา ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาอิสลาม
พื้นที่ดังกล่าวคือ จุดแตกหักของปัญหาในภูมิภาคนี้ที่ดำเนินมายาวนานแล้วและยังเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการสงครามอิสราเอล-ฮามาสในปี 2021 ด้วย
เมื่อเดือนที่แล้ว อิตามาร์ เบน เกวียร์ รัฐมนตรีความมั่นคงอิสราเอลซึ่งเป็นฝ่ายขวาสุดโต่ง สร้างความสับสนด้วยการออกมากล่าวว่า ตนต้องการกำหนดเงื่อนไขจำกัดจำนวนผู้เข้ามายังมัสยิด อัล อัคซา ก่อนที่ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู จะกล่าวว่า ตัวเลขผู้เข้ามาภาวนาสักการะที่มัสยิดศักดิ์สิทธิ์ในปีนี้จะคล้าย ๆ กับของปีที่แล้ว
อัสซาม อัล-คาติบ ผู้อำนวยการมูลนิธิ Jerusalem Waqf ซึ่งเป็นองค์กรศาสนาที่ดูแลมัสยิด อัล อัคซา กล่าวว่า “นี่คือมัสยิดของเราและเราต้องดูแลเอาไว้” และว่า “เราต้องปกป้องตัวตนของชาวมุสลิมที่มัสยิดแห่งนี้ ที่จะสามารถเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยสันติและอย่างปลอดภัย”
ในปีนี้ เดือนรอมฎอนของชาวปาเลสไตน์จะเริ่มต้นในวันจันทร์ ขณะที่ บางประเทศในภูมิภาคอาหรับและประเทศมุสลิมอื่น ๆ เดือนศักดิสิทธิ์นี้จะเริ่มต้นในวันอังคาร
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว บรรยากาศภายในเมืองเก่าในปีนี้แตกต่างไปไม่น้อย เพราะไม่มีการตกแต่งพื้นที่เหมือนปกติ ขณะที่ อารมณ์ในเมืองก็ดูเศร้าหมองไปทั่วเขตเวสต์แบงก์ซึ่งมีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารไปราว 400 คนในการปะทะกับกองกำลังฝ่ายความมั่นคงหรือชาวยิมที่มาตั้งรกรากที่นี่นับตั้งแต่สงครามกาซ่าครั้งนี้ปะทุขึ้น
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ได้มีการวางแผนงานที่จะทำให้เดือนรอมฎอนที่สงบสุขและได้ดำเนินมาตรการเสริมพิเศษเพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่ถือว่าเป็นการยั่วยุและการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนผ่านสื่อสังคมออนไลน์แล้ว โดยสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยปลุกระดมก่อการร้ายได้ 20 คน
แถลงการณ์ตำรวจในเรื่องนี้ที่ระบุว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลจะเดินหน้าดำเนินการและอนุญาตให้มีการสวดภาวนาในช่วงเดือนรอมฎอนอย่างปลอดภัยในพื้นที่เนินพระวิหาร (Temple Mount) พร้อม ๆ กับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ไปด้วย”
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น