เจ้าหน้าที่ปากีสถานรายงานว่า ร้อยละ 82 ของผู้ที่ยืนยันว่าติดเชื้อเอชไอวีทั้งหมดหรือราว 650 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ในขณะที่ผลการตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีของพ่อเเม่ของเด็กเกือบทั้งหมดชี้ว่าไม่ติดเชื้อ
เด็กเหล่านี้อยู่ในพื้นที่อำเภอลัคคานาที่ยากจนในจังหวัดซินด์ทางใต้ของประเทศ โดยในพื้นที่นี้มีคนได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชไอวีถึงเกือบ 785 คน ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่อธิบายว่ามีสาเหตุที่เป็นไปได้หลายอย่างที่ทำให้เกิดการระบาดของเชื้อเอชไอวี ได้เเก่ การเปลี่ยนถ่ายเลือดที่ติดเชื้อ การนำเข็มฉีดยาเเละเข็มน้ำเกลือที่ใช้เเล้วมาใช้อีก มาตรการควบคุมการติดเชื้อเอชไอวีด้อยคุณภาพ ตลอดจนไม่มีระบบการฆ่าเชื้อโรค
องค์การอนามัยโลกชี้ว่า เพียงร้อยละ 43 ของผู้ติดเชื้อเอชไวอีทั้งหมดเท่านั้นที่กำลังได้รับการบำบัดด้วยยาต้านไวรัส หรือที่เรียกว่า ART เนื่องจากขาดแคลนยา
แถลงการณ์ขององค์การอนามัยโลกชี้ว่า ปริมาณยาต้านไวรัสเอชไอวีที่มีอยู่ในขณะนี้เพียงพอสำหรับการบำบัดเด็กจำนวน 240 คนถึงวันที่ 15 กรกฏาคมเท่านั้น ทำให้มีเด็กที่ติดเชื้ออีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับการบำบัดด้วยยาต้านไวรัส
ก่อนหน้าการแพร่ระบาดของเอชไอวีที่อำเภอลัคคานา บรรดาเจ้าหน้าที่รายงานว่าปากีสถานเคยมีจำนวนเด็กติดเชื้อมากกว่าหนึ่งพันคนเล็กน้อยเท่านั้นทั่วประเทศ
ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานนานาชาติรวมทั้งองค์การอนามัยโลก ทางการปากีสถานได้ตรวจเลือดประชาชนจำนวน 27,000 คนเพื่อหาเชื้อเอชไอวีไปแล้วตั้งเเต่วันที่ 25 เมษายน หลังเกิดการระบาดในอำเภอลัคคานาที่มีประชากรราว 1 ล้าน 5 แสนคน
ทีมงานนานาชาติที่เข้าไปให้ทำงานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของปากีสถานรับมือกับการระบาดของเชื้อเอชไอวี บอกว่า พื้นที่ศูนย์กลางการระบาดนี้มีอากาศที่ร้อนจัดมากสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส เเละไม่มีถนนลาดยางเเละระบบขนส่งสาธารณะ เป็นอุปสรรคแก่ประชาชนในการเดินทางไปเข้ารับการตรวจเลือดตามจุดบริการที่ตั้งขึ้นชั่วคราว
Zafar Mirza ที่ปรึกษารัฐบาลปากีสถานด้านสาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการนำเข้ายาต้านไวรัสเอชไอวีเพื่อให้เด็กที่ติดเชื้อทุกคนได้รับการบำบัด เขาอธิบายในงานแถลงข่าวที่กรุงอิสลามาบัดเมื่อเร็วๆ นี้ว่า มียาต้านไวรัสเอชไอวีไม่เพียงพอในประเทศ เพราะเป็นเรื่องไม่คาดคิดที่เด็กๆ จำนวนมากติดเชื้อเอชไอวีแบบนี้
เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกคนหนึ่งยืนยันกับวีโอเอว่า ยาต้านไวรัสกำลังอยู่ระหว่างการขนส่งมาจากเอธิโอเปีย เเละเด็กที่ติดเชื้อในปากีสถานจะได้รับยาในเร็ววัน
Mirza กล่าวว่า รัฐบาลปากีสถานยังกำลังนำเข้าชุดตรวจเลือดอีก 50,000 ชุด เเละกำลังตั้งศูนย์บำบัดสามแห่งขึ้นที่อำเภอลัคคานาและอำเภออื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง
ทีมผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ เเละ WHO กำลังเข้าเยี่ยมพื้นที่ระบาดเพื่อช่วยเสาะหาต้นเหตุของการระบาดของเชื้อเอชไอวีครั้งใหญ่ที่สุดในปากีสถานครั้งนี้ คาดว่าน่าจะทราบสาเหตุเบื้องต้นในเร็ววันนี้
เจ้าหน้าที่ปากีสถานเเละยูเอ็นสงสัยว่า การแพร่เชื้ออย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแบบนี้น่าจะมาจากการบริการทางการเเพทย์ที่ไม่สะอาดทั้งในโรงพยาบาลรัฐเเละเอกชน นอกเหนือจากนี้ ในจำนวนเเพทย์ที่ขาดคุณสมบัติราว 600,000 คนที่ให้บริการอย่างผิดกฏหมายทั่วประเทศ อย่างน้อย 270,000 อยู่ในจังหวัด Sindh
ปากีสถานมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,000 คนในปี ค.ศ. 2017 ทำให้กลายเป็นชาติที่มีการเเพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากที่สุดในระดับภูมิภาค เจ้าหน้าที่ประมาณว่ามีคนติดเชื้อในประเทศที่ราว 163,000 คน เเต่น่าจะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก
บรรดานักวิจารณ์ยังกล่าวโทษด้วยว่า ต้นเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดของเชื้อเอชไอวีรุนเเรงนี้ เป็นเพราะระบบสาธารณสุขของประเทศไม่ให้ความสำคัญกับการระบาดของเอชไอวี มีการฉ้อฉลในระบบราชการ การยุบเลิกกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลกลางเมื่อเร็วๆ นี้เเละมอบงานให้กับหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดต่างๆ ทำแทน
