ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เทปกาวทางการแพทย์ชนิดใหม่ปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิวหนังผู้ป่วยทารกแรกเกิดและผู้สูงอายุ


ทารกเเรกเกิดที่ต้องเข้ารักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยทารกแรกเกิดมักป่วยหนัก คุณเจฟ คาร์พ หัวหน้าศูนย์การแพทย์ฟื้นฟูที่โรงพยาบาล Brigham and Women Hospital ในบอสตั้น กล่าวว่า แพทย์จำเป็นต้องใช้เทปกาวเพื่อติดยึดอุปกรณ์ทางการแพทย์บนร่างกายผู้ป่วยทารก เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์สำคัญแนบติดกับร่างกายผู้ป่วยจริงๆ เช่น อุปกรณ์ตรวจวัดระดับอุณหภูมิ ท่อหลอดลมเพื่อช่วยในการหายใจ ตลอดจนเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าของกล้ามเนื้อหัวใจ

ใครที่เคยลอกเทปกาวที่ติดบนผิวหนังจะรู้สึกเจ็บ ลองจินตนาการดูว่าหากผู้ป่วยเป็นทารกแรกเกิดที่ผิวหนังอ่อนบาง เด็กจะเจ็บมากแค่ไหน และการลอกเทปกาวจากผิวหนังทารกต้องทำอย่างระมัดระวังมาก คุณคาร์พกล่าวว่าขั้นตอนนี้เป็นปัญหาที่น่าหนักใจที่สุดในงานที่หออภิบาลผู้ป่วยทารกแรกเกิดของโรงพยาบาล

หัวหน้าศูนย์การแพทย์ฟื้นฟูที่โรงพยาบาล Brigham and Women Hospital กล่าวว่า มีประสบการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นหลายครั้ง การลอกเทปกาวจากผิวหนัวเด็กบางครั้งสร้างความเสียหายถาวรแก่ร่างกายผู้ป่วย อาทิ ลอกเอาเนื้อของผู้ป่วยติดออกมาด้วย บางครั้งใบหูทารกขาดจากการลอกเทปกาว

คุณคาร์พและทีมงานจึงพัฒนาเทปกาวทางการแพทย์ที่มีความสามารถยึดเกาะได้ดีเหมือนเทปกาวที่ใช้กันในโรงพยาบาล แต่สามารถลอกออกได้โดยไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บแ่ก่ผิวหนังที่อ่อนบางของผู้ป่วย

เทปกาวทางการแพทย์ที่ใช้กันปัจจุบันจะมี 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นส่วนด้านหลังที่ไม่มีกาวเหนียว อีกชั้นหนึ่งเป็นส่วนที่มีแผ่นฟิลม์กาวเหนียวใช้ติดลงบนผิวหนังผู้ป่วย เทปกาวทางการแพทย์ชนิดใหม่ที่พัฒนาขึ้นมามี 3 ชั้น โดยชั้นที่สามเป็นชั้นกาวที่จะยังคงติดอยู่บนหนังผู้ป่วยหลังจากลอกเอาตัวเทปชั้นอื่นๆออกไปแล้ว ส่วนที่ยังติดอยู่บนผิวหนังผู้ป่วยนี้สามารถถูออกเบาๆด้วยการโรยแป้งฝุ่นธรรมดาทั่วไปลงไปก่อน

คุณคาร์พกล่าวว่าชั้นที่ 3 ของเทปกาวทางการแพทย์ชนิดใหม่นี้ช่วยให้การลอกเอาตัวเทปออกจากผิวหนังผู้ป่วยง่าย รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น

เทปกาวทางการแพทย์ชนิดใหม่ที่อ่อนโยนต่อผิวหนังผู้ป่วยนี้ยังจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยสูงอายุด้วยเพราะผิวหนังอาจจะฉีกขาดได้ง่ายเช่นกัน

นอกจากนี้ เทปกาวทางการแพทย์ชนิดใหม่ยังผลิตจากวัสดุที่ใช้กันอยู่เเล้วทั่วไป คุณคาร์พแห่งฝ่ายการแพทย์ฟื้นฟูที่โรงพยาบาล Brigham and Women Hospital เชื่อว่านี่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ผ่านการตรวจสอบและได้รับอนุมัติจากหน่วยงานควบคุมอย่างแน่นอน และอีกไม่นาน คงจะออกมาสู่ตลาดให้ใช้กันในโรงพยาบาลและคลีนิคทั่วไป
XS
SM
MD
LG