ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘อ็อกซ์แฟม’ เผย คนรวย 1% ของโลกถือครอง 2 ใน 3 ความมั่งคั่งโลก


PAKISTAN ECONOMY POLITICS POVERTY INFLATION Market
PAKISTAN ECONOMY POLITICS POVERTY INFLATION Market

ขณะที่ การประชุมเศรษฐกิจระดับโลก เวิล์ด อีคอโนมิก ฟอรัม 2023 (World Economic Forum – WEF) ที่เมืองรีสอร์ท ดาวอส ของสวิตเซอร์แลนด์กำลังเดินหน้าอยู่ในสัปดาห์นี้ ผลการศึกษาล่าสุดโดยองค์กรอ็อกซ์แฟม (Oxfam) ชี้ว่า ภาวะความร่ำรวยสุดโต่งและความยากจนสุดขีดทั่วโลกเพิ่มขึ้นพร้อม ๆ กันเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี

ในรายงานล่าสุดที่ชื่อ Survival of the Richest ที่ได้รับการตีพิมพ์ออกมาในวันจันทร์ อ็อกซ์แฟมระบุว่า มหาเศรษฐีและอภิมหาเศรษฐีทั่วโลกนั้นกำลังรวยขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ในเวลานี้

นาบิล อาห์เหม็ด ผู้อำนวยการฝ่ายความยุติธรรมทางเศรษฐกิจของอ็อกซ์แฟมกล่าวว่า ขณะที่ ภาพของผู้มีอันจะกินจำนวนหลายร้อยคน พร้อมกับรัฐมนตรีและผู้ว่าการธนาคารกลางหลายสิบคนเดินทางมาร่วมงาน WEF นี้แสดงให้เห็นว่า “เทศกาลของความร่ำรวย” ได้เวียนมาถึงอีกครั้ง ทางองค์กรต้องการจะนำเสนอการค้นพบครั้งใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ร่ำรวยมากที่สุดเพียง 1% ของโลกคือผู้ถือครองความมั่งคั่งเกือบ 2 ใน 3 ของความมั่งคั่งที่กำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2020 ในเวลานี้

อ็อกซ์แฟม เปิดเผยว่า มูลค่าของความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงไม่ถึง 3 ปีนี้อยู่ที่ประมาณกว่า 42 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 2 เท่าของรายได้ที่ประชากรโลกอีก 99% จะหาได้

รายงานดังกล่าวระบุว่า ที่มาของความมั่งคั่งดังกล่าวนั้น ส่วนหนึ่งมาจากรัฐบาล ซึ่งก็คือ เงินงบประมาณฉุกเฉินที่ทางการประเทศต่าง ๆ อัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลกในช่วงที่การระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสบีบให้ประเทศทั้งหลายต้องดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ปิดประเทศ

นอกจากนั้น อ็อกซ์แฟมยังเปิดเผยด้วยว่า แรงงานอย่างน้อย 1,700 ล้านคนนั้นใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าค่าแรง ซึ่งหมายความว่า คนเหล่านั้นยิ่งจนลงไปอีก ขณะที่ ความร่ำรวยของบรรดามหาเศรษฐีและอภิมหาเศรษฐีนั้นกลับพุ่งขึ้น ตามราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้นเพราะอัตราเงินเฟ้อ

องค์กรแห่งนี้ยังเรียกร้องให้รัฐบาลต่าง ๆ ขยายกรอบการดำเนินการเก็บภาษีเพิ่มสำหรับบริษัทพลังงาน ไปยังบริษัทอาหารต่าง ๆ ที่ทำกำไรได้มหาศาล และให้มีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีกถึง 5% จากมหาเศรษฐีและอภิมหาเศรษฐีทั่วโลกด้วย

  • ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี

XS
SM
MD
LG