ในนิวอิงแลนด์ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา การประมงเป็นพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่ปัจจุบันราชการตัดลดโควต้าปริมาณปลาที่ชาวประมงได้รับอนุญาตให้จับเพราะเห็นว่าเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยเพิ่มประชากรปลาค็อดในอ่าวเมนให้อุดมสมบูรณ์ดังเดิม
หลังจากทำการประมงมานานร่วม 40 ปี คุณเดวิด เกเทิ่ล บอกว่าฤดูการจับปลาปีนี้อาจจะเป็นการทำประมงครั้งสุดท้ายของเขา นั่นเป็นเพราะว่าสภาจัดการการประมงแห่งนิวอิงเเลนด์ได้ตัดลดปริมาณปลาค็อดที่อนุญาตให้ชาวประมงจับได้ลงถึง 77 เปอร์เซ็นต์
คุณเกเทิ่ลกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าการตัดลดโควต้านี้หมายถึงจุดจบของธุรกิจทำประมงของตัวเขา คุณเกเทิ่ลกล่าวว่าภายใต้ข้อกำหนดโควต้าปลาค็อด เขาใช้เวลาไม่กี่วันก็จะจับปลาค็อดได้ครบตามโควต้าที่ได้รับ เขาไม่สามารถจับปลาประเภทอื่นๆได้เพราะไม่เหมาะกับประเภทเรือและอุปกรณ์ที่เขามีอยู่
ในขณะที่จำนวนปลาที่จับได้ในปัจจุบันและจำนวนชาวประมงลดลงกว่าเมื่อห้าสิบปีที่แล้วอย่างมาก การตัดลิสนใจลดโควต้าจำนวนปลาของสภาจัดการการประมงนิวอิงแลนด์มีผลกระทบรุนแรงต่อชาวประมงอย่างคุณเกเทิ่ลที่ตัดสินใจยึดอาชีพการประมง
คุณเกเทิ่ลกล่าวว่าเขาอายุ 59 ปีแล้วและการประมงเป็นเพียงอาชีพเดียวของเขา หากเลิกจับปลาเขาก็ขาดรายได้และยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะหากไม่ทำประมง ก็คงอดอยาก
คุณจอห์น บูลลาร์ด หัวหน้าสำนักงานการประมงฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือที่สำนักงานการจัดการทางทะเลและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmosphere Administration) กล่าวว่าสมาชิกสภาจัดการการประมงนิวอิงเเลนด์รู้ดีว่าการตัดโควต้าจำนวนปลาค็อดที่อนุญาตให้จับจะมีผลกระทบรุนแรงต่อชาวประมง แต่เขากล่าวว่าสมาชิกสภาจัดการการประมงเห็นว่านี่เป็นทางเดียวที่จะเพิ่มปริมาณปลาค็อดให้เพิ่มขึ้นเหมือนเดิม หากไม่ทำเช่นนี้ ก็หมดโอกาส
แต่โอกาสในการเพิ่มจำนวนปลาค็อดในอ่าวเมนยังไม่แน่นอน บรรดานักวิทยาศาสตร์ชี้ว่าพบปลาค็อดน้อยลงเรื่อยๆในอ่าวเมนและคุณบูลลาร์ดบอกว่านักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้สาเหตุว่าทำไม
สาเหตุหนึ่งที่พวกเขาจับตาดูคือน้ำทะเลในอ่าวเมนอุ่นขึ้นมากผิดปกติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้วถือว่าอุ่นที่สุดเป็นประวัติการณ์ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าภาวะโลกร้อนอาจจะเป็นสาเหตุหลักให้จำนวนปลาค็อดลดลง
นอกจากนี้การประมงที่เกินพอดีมานานหลายสิบปีก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเพราะปลาชนิดอื่นอาจจะเข้าไปอาศัยทดแทนปลาค็อดที่ถูกจับไปและปลาค็อดที่ยังเหลืออยู่อาจจะยังเล็กเกินไปที่จะแพร่พันธุ์เพื่อทดแทนปลาที่ถูกจับไปเป็นอาหาร
ด้านคุณหยาง ฉาง ผู้เชี่ยวชาญการประมงแห่งมหาวิทยาลัย University of Maine กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ไม่ว่าอะไรจะเป็นสาเหตุของการลดลงของจำนวนปลาค็อด ดูเหมือนว่าระบบนิเวศวิทยาในอ่าวเมนโดยรวมได้เปลี่ยนแปลงไป
เขากล่าวว่าระบบนิเวศวิทยาในอ่าวเมนเปลี่ยนแปลงไปและกลายเป็นที่อาศัยและเเพร่พันธุ์ของกุ้งล็อบสเตอร์พันธุ์อเมริกันที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากมาย แต่กลับไม่เหมาะกับปลาที่หากินใต้ท้องน้ำอีกต่อไป ผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณฉางไม่มั่นใจว่าการตัดลดโควต้าปลาค็อดจะช่วยให้จำนวนปลาค็อดเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานปิดท้ายว่าชาวประมงปลาค็อดในนิวอิงเเลนด์อาจได้รับความช่วยเหลือทางการเงินบางส่วนเนื่องจากทางการท้องถิ่นได้ประกาศให้อุตสาหกรรมการประมงเป็นความล้มเหลวทางเศรษฐกิจแล้วก่อนหน้าฤดูกาลจับปลาจะเริ่มขึ้นเสียอีก
หลังจากทำการประมงมานานร่วม 40 ปี คุณเดวิด เกเทิ่ล บอกว่าฤดูการจับปลาปีนี้อาจจะเป็นการทำประมงครั้งสุดท้ายของเขา นั่นเป็นเพราะว่าสภาจัดการการประมงแห่งนิวอิงเเลนด์ได้ตัดลดปริมาณปลาค็อดที่อนุญาตให้ชาวประมงจับได้ลงถึง 77 เปอร์เซ็นต์
คุณเกเทิ่ลกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าการตัดลดโควต้านี้หมายถึงจุดจบของธุรกิจทำประมงของตัวเขา คุณเกเทิ่ลกล่าวว่าภายใต้ข้อกำหนดโควต้าปลาค็อด เขาใช้เวลาไม่กี่วันก็จะจับปลาค็อดได้ครบตามโควต้าที่ได้รับ เขาไม่สามารถจับปลาประเภทอื่นๆได้เพราะไม่เหมาะกับประเภทเรือและอุปกรณ์ที่เขามีอยู่
ในขณะที่จำนวนปลาที่จับได้ในปัจจุบันและจำนวนชาวประมงลดลงกว่าเมื่อห้าสิบปีที่แล้วอย่างมาก การตัดลิสนใจลดโควต้าจำนวนปลาของสภาจัดการการประมงนิวอิงแลนด์มีผลกระทบรุนแรงต่อชาวประมงอย่างคุณเกเทิ่ลที่ตัดสินใจยึดอาชีพการประมง
คุณเกเทิ่ลกล่าวว่าเขาอายุ 59 ปีแล้วและการประมงเป็นเพียงอาชีพเดียวของเขา หากเลิกจับปลาเขาก็ขาดรายได้และยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะหากไม่ทำประมง ก็คงอดอยาก
คุณจอห์น บูลลาร์ด หัวหน้าสำนักงานการประมงฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือที่สำนักงานการจัดการทางทะเลและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and Atmosphere Administration) กล่าวว่าสมาชิกสภาจัดการการประมงนิวอิงเเลนด์รู้ดีว่าการตัดโควต้าจำนวนปลาค็อดที่อนุญาตให้จับจะมีผลกระทบรุนแรงต่อชาวประมง แต่เขากล่าวว่าสมาชิกสภาจัดการการประมงเห็นว่านี่เป็นทางเดียวที่จะเพิ่มปริมาณปลาค็อดให้เพิ่มขึ้นเหมือนเดิม หากไม่ทำเช่นนี้ ก็หมดโอกาส
แต่โอกาสในการเพิ่มจำนวนปลาค็อดในอ่าวเมนยังไม่แน่นอน บรรดานักวิทยาศาสตร์ชี้ว่าพบปลาค็อดน้อยลงเรื่อยๆในอ่าวเมนและคุณบูลลาร์ดบอกว่านักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้สาเหตุว่าทำไม
สาเหตุหนึ่งที่พวกเขาจับตาดูคือน้ำทะเลในอ่าวเมนอุ่นขึ้นมากผิดปกติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้วถือว่าอุ่นที่สุดเป็นประวัติการณ์ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าภาวะโลกร้อนอาจจะเป็นสาเหตุหลักให้จำนวนปลาค็อดลดลง
นอกจากนี้การประมงที่เกินพอดีมานานหลายสิบปีก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเพราะปลาชนิดอื่นอาจจะเข้าไปอาศัยทดแทนปลาค็อดที่ถูกจับไปและปลาค็อดที่ยังเหลืออยู่อาจจะยังเล็กเกินไปที่จะแพร่พันธุ์เพื่อทดแทนปลาที่ถูกจับไปเป็นอาหาร
ด้านคุณหยาง ฉาง ผู้เชี่ยวชาญการประมงแห่งมหาวิทยาลัย University of Maine กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ไม่ว่าอะไรจะเป็นสาเหตุของการลดลงของจำนวนปลาค็อด ดูเหมือนว่าระบบนิเวศวิทยาในอ่าวเมนโดยรวมได้เปลี่ยนแปลงไป
เขากล่าวว่าระบบนิเวศวิทยาในอ่าวเมนเปลี่ยนแปลงไปและกลายเป็นที่อาศัยและเเพร่พันธุ์ของกุ้งล็อบสเตอร์พันธุ์อเมริกันที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากมาย แต่กลับไม่เหมาะกับปลาที่หากินใต้ท้องน้ำอีกต่อไป ผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณฉางไม่มั่นใจว่าการตัดลดโควต้าปลาค็อดจะช่วยให้จำนวนปลาค็อดเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานปิดท้ายว่าชาวประมงปลาค็อดในนิวอิงเเลนด์อาจได้รับความช่วยเหลือทางการเงินบางส่วนเนื่องจากทางการท้องถิ่นได้ประกาศให้อุตสาหกรรมการประมงเป็นความล้มเหลวทางเศรษฐกิจแล้วก่อนหน้าฤดูกาลจับปลาจะเริ่มขึ้นเสียอีก
