ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า แห่งสหรัฐ กล่าวเมื่อเร็วๆนี้ที่ดิสนี่ย์เวริ์ดในรัฐฟลอริด้าว่าต้องการส่งเสริมให้สหรัฐกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลก
ผู้นำสหรัฐเปิดเผยแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวนี้ที่ฟลอริด้า การท่องเที่ยวเป็นธุรกิจหลักของ รัฐฟลอริด้าซึ่งมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของสหรัฐและจะเป็นหนึ่งในรัฐสำคัญในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยหน้า ในเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้
นักท่องเที่ยวจากนานาชาติทั่วโลกไม่พอใจที่การเดินทางเข้ามาในสหรัฐยุ่งยากมากขึ้น ไม่น่าประทับใจและมีขั้นตอนที่ยาวนานเปลืองเวลาเพราะความเข้มงวดของมาตราการการรักษาความปลอดภัยในสหรัฐตั้งแต่เหตุการณ์ก่อการร้ายสิบเอ็ดกันยายนเมื่อปีพุทธศักราช 2544 ในมหานครนิวยอร์กกับกรุงวอชิงตัน
เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบไวท์เฮ้าส์ รายงานว่า ส่วนแบ่งของสหรัฐในตลาดการท่องเที่ยวทั่วโลกลดลงมากกว่าสามสิบเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบระหว่างปีพุทธศักราช 2543 กับ ปีพุทธศักราช 2553
เพื่อแก้ไขปัญหา ประธานาธิบดีโอบาม่าแห่งสหรัฐ ได้ขยายโครงการ Global Entry Program โครงการที่ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า เป็นการปกป้องชายแดนของอเมริกาและช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีคุณสมบัติเข้าข่ายในโครงการนี้
ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า แทนที่ต้องยืนเข้าแถวยาวเหยียดที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบิน นักท่องเที่ยวในโครงการ Global Entry Program แค่แสกนหนังสือเดินทางและลายนิ้วมือ ก็ผ่านเข้าเมืองได้แล้ว
การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักของสหรัฐ ประธานาธิบดีโอบาม่า กล่าวว่า ในปีพุทธศักราช 2553 มีนักท่องเที่ยวหกสิบล้านคนเดินทางมาเยือนอเมริกาและใช้จ่ายเงินถึง 134,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
ผู้นำสหรัฐได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงพานิชย์กับรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยพัฒนาแผนยุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมการตลาดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในสหรัฐและเพิ่มจำนวนสถานที่ท่องเที่ยวให้มากขึ้น
ประธานาธิบดีโอบาม่า กล่าวว่า สหรัฐต้องประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า สหรัฐเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ โดยจะปรับปรุงให้การท่องเที่ยวในสหรัฐเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยธุกิจการด้านการท่องเที่ยวทั่วสหรัฐเติบโตและสร้างงาน
ทางการสหรัฐประมาณว่าการท่องเที่ยวนานาชาติช่วยสร้างงานแก่คนในสหรัฐถึงหนึ่งล้านสองแสนตำแหน่ง เและเชื่อว่าการเพิ่มส่วนแบ่งของสหรัฐในตลาดการท่องเที่ยวทั่วโลกจะช่วยสร้างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งล้านตำแหน่งภายในสิบปีข้างหน้า
ผู้นำสหรัฐบอกว่าสหรัฐหมายตานักท่องเที่ยวจากไม่กี่ประเทศที่จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดนี้ อาทิ จีน อินเดีย กับบราซิล เพราะเป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว มีประชากรจำนวนมหาศาลและมีชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น ประธานาธิบดีโอบาม่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มจำนวนวีซ่าที่จะออกให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวบราซิล โดยเพิ่มขึ้นอีกสี่สิบเปอรืเซ็นต์ในปีนี้ และสำหรับนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆทั่วโลก ผู้นำสหรัฐต้องการให้สถานทูตสหรัฐทั่วโลกเร่งสัมภาษณ์ผู้สมัครขอวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าสหรัฐให้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
