นาย Kim Jong Un ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวปราศัยในวันแรกของปีใหม่ เรียกร้องความสัมพันธ์ที่ดีกับเกาหลีใต้และขู่สหรัฐกับประเทศพันธมิตรด้วยอาวุธนิวเคลียร์
นับเป็นการกล่าวปราศัยต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก หลังการประหารชีวิตอาเขย นาย Jang Song Thaek ที่ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวหาว่า ก่อให้เกิดการแตกแยกในพรรครัฐบาลและท้าทายอำนาจของเขา ในเดือนธันวาคม ศกก่อน
เขากล่าวยืนยันว่าความสามัคคีในพรรคเข้มแข็งขึ้น หลังการกวาดล้างผู้ที่ต่อต้านพรรคและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปฏิวัติ
ผู้นำของเกาหลีเหนือกล่าวต่อไปว่า กำลังมีการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายในคาบสมุทรเกาหลี และว่า ความขัดแย้งเล็กน้อยทางการทหารอาจกลายเป็นชนวนสงครามอย่างเต็มที่ได้ และถ้าเกิดสงครามขึ้นในที่นั้น ก็จะมีความเสียหายจากอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐเองก็จะไม่ปลอดภัย
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ผู้นำเกาหลีเหนือพยายามจะทำให้โลกภายนอกเชื่อว่า เขาผนึกอำนาจได้สำเร็จ เพราะหลังการประหารชีวิตอาเขยของเขา มีผู้ตั้งประเด็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเขาคุมอำนาจไม่ได้
มองกันว่า นาย Jang Song Thaek เป็นผู้นำคนที่สองของประเทศ และเป็นผู้ให้คำปรึกษาแนะนำแก่หลานชายวัย 30 ปีที่เข้าสืบทอดอำนาจจากบิดาผู้ล่วงลับไปอย่างค่อนข้างกระทันหัน
นักวิเคราะห์ Stephen Noerper แห่ง Korea Society บอกกับ Voice of America ว่าถ้ามองดูเสถียรภาพในระยะยาวแล้ว ยังจะต้องจับตาดูเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดต่อไป เขาให้ความเห็นว่า มีหลายกลุ่มที่แข่งขันเรียกร้องความสนใจจากผู้นำประเทศอายุน้อย และเชื่อว่านาย Kim Jong Un คุมอำนาจไม่ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีคนที่เชื่อว่า ยังมีกลุ่มที่จงรักภักดีต่อนาย Jang Song Thaek เหลืออยู่ด้วย
ส่วนนักวิเคราะห์ Ralph Cossa ของ Pacific Forum ใน Hawaii บอกกับ VOA ว่า คำขู่สหรัฐของผู้นำเกาหลีเหนือในปีใหม่นี้ ไม่แตกต่างไปจากที่แล้วๆมา และบอกว่าเขาไม่ให้น้ำหนักกับคำมั่นของนาย Kim Jong Un ที่อยากจะปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ เพราะหลังจากกล่าวข้อความอย่างเดียวกันในปีที่แล้ว เกาหลีเหนือก็หันมาขู่สหรัฐและประเทศพันธมิตรด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่อไปด้วย
นับเป็นการกล่าวปราศัยต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก หลังการประหารชีวิตอาเขย นาย Jang Song Thaek ที่ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวหาว่า ก่อให้เกิดการแตกแยกในพรรครัฐบาลและท้าทายอำนาจของเขา ในเดือนธันวาคม ศกก่อน
เขากล่าวยืนยันว่าความสามัคคีในพรรคเข้มแข็งขึ้น หลังการกวาดล้างผู้ที่ต่อต้านพรรคและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปฏิวัติ
ผู้นำของเกาหลีเหนือกล่าวต่อไปว่า กำลังมีการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายในคาบสมุทรเกาหลี และว่า ความขัดแย้งเล็กน้อยทางการทหารอาจกลายเป็นชนวนสงครามอย่างเต็มที่ได้ และถ้าเกิดสงครามขึ้นในที่นั้น ก็จะมีความเสียหายจากอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐเองก็จะไม่ปลอดภัย
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ผู้นำเกาหลีเหนือพยายามจะทำให้โลกภายนอกเชื่อว่า เขาผนึกอำนาจได้สำเร็จ เพราะหลังการประหารชีวิตอาเขยของเขา มีผู้ตั้งประเด็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเขาคุมอำนาจไม่ได้
มองกันว่า นาย Jang Song Thaek เป็นผู้นำคนที่สองของประเทศ และเป็นผู้ให้คำปรึกษาแนะนำแก่หลานชายวัย 30 ปีที่เข้าสืบทอดอำนาจจากบิดาผู้ล่วงลับไปอย่างค่อนข้างกระทันหัน
นักวิเคราะห์ Stephen Noerper แห่ง Korea Society บอกกับ Voice of America ว่าถ้ามองดูเสถียรภาพในระยะยาวแล้ว ยังจะต้องจับตาดูเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดต่อไป เขาให้ความเห็นว่า มีหลายกลุ่มที่แข่งขันเรียกร้องความสนใจจากผู้นำประเทศอายุน้อย และเชื่อว่านาย Kim Jong Un คุมอำนาจไม่ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีคนที่เชื่อว่า ยังมีกลุ่มที่จงรักภักดีต่อนาย Jang Song Thaek เหลืออยู่ด้วย
ส่วนนักวิเคราะห์ Ralph Cossa ของ Pacific Forum ใน Hawaii บอกกับ VOA ว่า คำขู่สหรัฐของผู้นำเกาหลีเหนือในปีใหม่นี้ ไม่แตกต่างไปจากที่แล้วๆมา และบอกว่าเขาไม่ให้น้ำหนักกับคำมั่นของนาย Kim Jong Un ที่อยากจะปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ เพราะหลังจากกล่าวข้อความอย่างเดียวกันในปีที่แล้ว เกาหลีเหนือก็หันมาขู่สหรัฐและประเทศพันธมิตรด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่อไปด้วย
