อันตรายถึงชีวิตในการจราจรที่คับคั่งขึ้นอย่างในจีนและอินเดีย ดูเหมือนจะเกิดขึ้นเหมือนๆ กันในประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเบ่งบาน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลเสียหายที่อาจติดตามมาจากความก้าวหน้าในการพัฒนา
Atienne Krug ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันความรุนแรงและการบาดเจ็บขององค์การอนามัยโลกกล่าวว่า มีการสร้างถนนหนทางใหม่ๆ มากขึ้น มีรถยนต์ออกมาแล่นมากขึ้น มีคนขับรถมือใหม่ออกมาขับขี่ยวดยานเพิ่มขึ้นทุกวัน วันละหลานพันคน แต่น่าเสียดายที่พัฒนาการที่ดีไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่จำเป็นไว้รองรับ เขาเห็นว่า ความปลอดภัยตามถนนหนทางยังได้รับความสนใจน้อยกว่าที่ควร ขณะที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากในการพัฒนา
ในอินเดีย ซึ่งการจราจรตามเมืองใหญ่ๆ คับคั่งติดขัดมากนั้น มีคนเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุในการจราจรมากกว่าประเทศอื่น อุบัติเหตุล่าสุด รถตู้ชนรถบัสในรัฐอุตตระประเทศเมื่อวันเสาร์ มีคนเสียชีวิต 36 คน
บริษัทวิจัย JP Research ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนทางหลวงในรัฐทมิฬนาดูของอินเดีย Ravishankar Rajaraman ผู้จัดการโครงการในอินเดียของบริษัทวิจัยนี้กล่าวว่า มีการสร้างถนนหนทางใหม่ๆ ตามแบบประเทศตะวันตก แต่ยวดยานที่ออกมาใช้ถนนเกือบ 70 % เป็นรถ 2 ล้อ ขณะที่รถยนต์รวมทั้งรถยนต์นั่งจริงๆ มีเพียง 15-20 % ทางหลวงเลนกว้างใหญ่อย่างที่อำนวยความสะดวกแก่รถยนต์และรถบรรทุกที่แล่นด้วยความเร็วสูงในประเทศตะวันตก กลายเป็นที่ที่ไม่ค่อยปลอดภัยเมื่อมียานพาหนะ 2 ล้อออกมาแล่นอย่างแออัดไม่มีระเบียบ
ถนนหนทางหรือทางหลวงใหม่ๆ ในประเทศกำลังพัฒนามักจะไม่ค่อยมีป้ายจราจรหรือไฟจราจรที่เหมาะสม อย่างอุบัติเหตุในอียีปต์ก่อนรุ่งเช้าวันอาทิตย์เมื่อรถบัสนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางจากเมืองอัสวานไปยังวิหารอาบูซิมเบล แล่นไปตามถนนที่ติดไฟสลัวๆ ชนรถบรรทุกที่จอดอยู่ นักท่องเที่ยวอเมริกันเสียชีวิต 8 คน
เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ถึงแม้จะมีกฏจราจรและการปฏิบัติตามระเบียบกฏเกณฑ์ แต่ผู้ขับขี่ยวดยานและผู้โดยสารในประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต ยังประสบปัญหารถยนต์ด้อยคุณภาพในกลไกด้านความปลอดภัย ขณะที่รถที่ใช้กันในประเทศเหล่านี้จะมองดูเหมือนๆ กับรถที่ใช้กันในประเทศตะวันตก แต่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานบางอย่างด้อยกว่า
รถยนต์ราคาถูกที่มุ่งเป้าหมายผู้บริโภครายได้ระดับต่ำ มักขาดคุณภาพด้านความปลอดภัยอย่างของรถยนต์ที่ขายในประเทศตะวันตก ซึ่งราคาที่ลดลงนั้น มีผลเสียติดตามมา
ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลกนั้น ปีหนึ่งๆ มีคนเสียชีวิตเกือบ 1,300,000 คน เนื่องจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศรายได้ต่ำและรายได้ระดับกลาง
เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า สามารถจะลดจำนวนการเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุในการจราจรลงได้ด้วยการคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับรถยนต์นั่ง และสวมหมวกกันน็อคสำหรับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ไม่ขับรถเร็ว หรือขับรถขณะมึนเมา และรัฐบาลควรวางระเบียบกฏเกณฑ์เข้มงวดกวดขันในเรื่องความปลอดภัย อย่างที่ทำกันในเวียดนาม ซึ่งผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อคเพิ่มขึ้นจาก 20 % เป็น เกือบ 100 % เกือบจะในเวลาข้ามคืนหลังจากทางการเวียดนามบังคับใช้กฏหมายความปลอดภัยในการขับขี่มอเตอร์ไซค์