ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับดินโรแลนด์ บูเรช ที่สถาบันการวิจัยข้าวระหว่างประเทศกล่าวว่า ต้นทุนในการผลิตข้าวของชาวนานั้นเป็นค่าปุ๋ยเสียราวๆ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากทีเดียว จากการที่คุณ โรแลนด์ บูเรช ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการใช้ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะกับที่นาให้มากที่สุดนั้นมาหลายปี เขาและคณะนักวิจัยกำหนดคำถามที่ทรงความสำคัญชุดหนึ่งซึ่งจะช่วยเหลือชาวนาให้ตัดสินใจได้ว่าที่นาของตนควรใส่ปุ๋ยมากน้อยเท่าใด?
เขากล่าวว่าเรื่องที่แปลกไม่เหมือนใครเกี่ยวกับเครื่องมือที่ช่วยการตัดสินใจเหล่านี้ก็คือว่าเป็นคำถามที่เรียบง่าย และมีคำตอบพร้อมอยู่แล้ว
และเพื่อทำให้เรียบง่ายมากขึ้น ชาวนาจะสามารถตอบคำถามเหล่านั้นผ่านทางโทรศัพท์มือของพวกเขาได้ในอีกไม่ช้านี้
เมื่อมีการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวในฟิลิปปินส์ในอีกสองสามสัปดาห์ข้างหน้า ชาวนาจะสามารถโทรศัพท์เข้ามาที่หมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุไว้ได้ฟรี และจะได้ฟังเสียงพูดเป็นภาษาเดียวกับที่ตนพูดแบบนี้ว่า
เสียงที่บันทึกไว้จะถามคำถามเกี่ยวกับขนาดของที่นา ผลิตข้าวได้กี่กระสอบเมื่อปีที่แล้วและปลูกตอนฤดูไหน?
เสียงที่บันทึกไว้จะบอกว่า ถ้าท่านต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับปุ๋ยสำหรับหน้าฝน โปรดกดหมายเลขหนึ่ง ถ้าสำหรับใช้ตอนหน้าแล้ง โปรดกดหมายเลขสอง
แล้วปุ๋ยธรรมชาติล่ะ? ท่านเอาฟางข้าวทิ้งลงไปในที่นาเอง หรือปล่อยให้ทับถมเป็นตะกอนให้น้ำพัดพาเข้าไปในนา
เสียงที่บันทึกไว้จะบอกว่าถ้าที่นาของท่านอยู่ติดกับทะเลสาปหรือแม่น้ำซึ่งเกิดน้ำท่วมเป็นระยะ หรืออยู่ในบริเวณที่เป็นลุ่มน้ำซึ่งมีดินที่ถูกกัดกร่อนมาจากบริเวณเนินเขาที่อยู่ติดกับที่นาสะสมอยู่ โปรดกดหมายเลขหนึ่ง ถ้าไม่ใช่แบบนั้น โปรดกดหมายเลขสอง
เมื่อตอบคำถามครบทุกคำถามแล้วชาวนาก็จะดูข้อความที่ส่งเป็นคำตอบมาว่าควรใช้ปุ๋ยแบบไหนในปริมาณมากน้อยเท่าใดนั้นได้ที่โทรศัพท์มือถือ
ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับดิน โรแลนด์ บูเรช แห่งสถาบันการวิจัยข้าวระหว่างประเทศคิดว่าเรื่องดังกล่าวจะทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำทีเดียว
นอกจากจะทำให้มีรายได้ดีขึ้นแล้ว เรื่องดังกล่าวจะสามารถช่วยลดมลพิษที่เกิดจากปุ๋ยได้ด้วยทั้งเพราะในฟิลิปปินส์และประเทศอื่นๆในเอเชียมีการใช้ปุ๋ยมากเกินควรและใช้ในทางที่ไม่สมควรเพราะไม่มีใครคอยอธิบายให้ชาวนาทราบว่าจำเป็นต้องใช้มากเท่าใดและใช้อย่างไร?
นักวิจัยสตรี ดาเนียล นีเรนเบิร์กแห่งสถาบันเวิร์ลด วอช ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมกล่าวว่านอกจากเอเชียแล้วเทคโนโลยีดังกล่าวมีวิสัยว่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนอื่นๆของโลกเช่นทางย่านซัพสะฮาราทางแอฟริกาด้วยเพราะใช้ได้ง่ายและเสียค่าใช้จ่ายไม่แพง เธอพบว่าชาวนาตามบริเวณเหล่านั้นต่างมีโทรศัพท์มือถือใช้กันเกือบจะทุกคนก็ว่าได้ เธอกล่าวด้วยว่าโทรศัพท์มือถือจะช่วยให้ชาวนาไม่ต้องเดินทางจากบ้านไปหาข่าวสารที่จำเป็น ดังนั้นถึงแม้โทรศัพท์มือถือจะไม่เหมาะสำหรับใช้ไถนาหรือเก็บเกี่ยวพืชผัก แต่ก็กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงคุณค่ามากเหลือเกินอย่างหนึ่งของชาวนาไปแล้ว
