ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Journal of Epidemiology and Community Health ระบุว่า การเพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำ 1 ดอลลาร์ (30 บาท) สามารถลดอัตราการฆ่าตัวตายได้หลายพันคนต่อปี
รายงานที่เผยแพร่โดยซีเอ็นเอ็น ระบุว่า การศึกษาซึ่งใช้วิธีเก็บข้อมูลเป็นเวลา 25 ปีพบว่า การเพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำเพียง 1 ดอลลาร์ สามารถลดอัตราการฆ่าตัวตายในกลุ่มคนทำงานอายุระหว่าง 18 - 64 ปีที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือต่ำกว่า ได้ราว 3.4% to 5.9% ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนคนอเมริกันหลายพันคนในแต่ละปี
และหากอัตราค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ อาจจะสามารถป้องกันการฆ่าตัวตายของคนอเมริกันได้ราว 40,000 คน ในช่วง 6 ปี คือระหว่างปี ค.ศ. 2009 - 2015
นักวิจัยเชื่อว่า สาเหตุหลักอย่างหนึ่งของปัญหาการฆ่าตัวตาย คือความเครียดทางการเงิน เช่น ตกงาน เป็นหนี้ หรือไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน เป็นต้น
นักวิจัยได้ตรวจดูความแตกต่างของอัตราการฆ่าตัวตายในรัฐต่าง ๆ เทียบกับอัตราค่าแรงขั้นต่ำในรัฐนั้น ๆ และพบว่าปัจจัยทั้งสองอย่างนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบัน อัตราค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ $7.25 (217 บาท) ต่อชั่วโมง โดยมี 29 รัฐที่จ่ายมากกว่าอัตราค่าแรงขั้นต่ำนี้
ผู้จัดทำรายงานชิ้นนี้บอกว่า การศึกษาครั้งนี้อาจช่วยให้ผู้จัดทำนโยบายมีข้อมูลที่จำเป็นในการกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ เพื่อให้ส่งผลเสียน้อยที่สุดต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงที่อัตราการว่างงานสูงในอเมริกา