องค์การสหประชาชาติ หรือ UN ประกาศให้อนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท มีผลบังคับใช้เมื่อวันพุธที่เพิ่งผ่านมา หลังจาก 128 ประเทศทั่วโลก ร่วมลงนามไปเมื่อ 4 ปีก่อน และมี 74 ประเทศให้สัตยาบันรับรอง
โดย Erik Solheim ผู้อำนวยการด้านสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ แถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า ผู้คนทั่วโลกได้ร่วมกันปกป้องชั้นโอโซนของโลกมาแล้ว คราวนี้เราต้องหันมาจัดการเรื่องของสารปรอทที่เป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติ เช่นเดียวกับการใส่ใจภาวะโลกร้อน ที่ล้วนเกิดจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเองทั้งสิ้น
อนุสัญญามินามาตะ ตั้งชื่อตามเมืองมินามาตะ ในจังหวัดคุมาโมโตะของญี่ปุ่น ที่พบปลาปนเปื้อนสารปรอทจำนวนมหาศาล ที่มาจากการปล่อยน้ำเสียที่มีสารปรอทจากโรงงานอุตสาหกรรมลงไปในอ่าวมินามาตะ จนทำให้ผู้คนล้มป่วยจำนวนมากหลังได้รับสารปรอทเข้าไปทำลายสมองอย่างรุนแรง เมื่อช่วงปี 2499 หรือราว 58 ปีที่แล้ว
ข้อตกลงดังกล่าวที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันพุธ เรียกร้องให้รัฐบาลที่ร่วมลงนามยุติการทำเหมืองปรอท และลดการใช้สารปรอทในภาคอุตสาหกรรม
โดยสารปรอท เคยถูกใช้ในถ่านไฟฉาย หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ สารเคมีในภาคอุตสาหกรรม เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดความดันในอากาศ
