ลิ้งค์เชื่อมต่อ

กลุ่มธุรกิจ LVMH ยกเลิกข้อตกลง 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ Tiffany & Co


The Tiffany & Co. sign hangs in a shop window in London, Monday, Nov. 25, 2019. French luxury group LVMH has agreed to buy iconic New York jeweler Tiffany & Co. for $16.2 billion, adding a famed star to its portfolio that already boasts Louis…
The Tiffany & Co. sign hangs in a shop window in London, Monday, Nov. 25, 2019. French luxury group LVMH has agreed to buy iconic New York jeweler Tiffany & Co. for $16.2 billion, adding a famed star to its portfolio that already boasts Louis…
Business News
please wait

No media source currently available

0:00 0:05:11 0:00


กลุ่มบริษัทผลิตภัณฑ์หรู LVMH จากฝรั่งเศสตัดสินใจยกเลิกข้อเสนอเข้าซื้อกิจการธุรกิจเครื่องประดับ Tiffany & Co ของสหรัฐฯ หลังรัฐบาลฝรั่งเศสแสดงความประสงค์จะขอประเมินข้อเสนอเรียกเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ก่อน

สำนักข่าว Associated Press รายงานในวันพุธว่า LVMH กล่าวว่า ทั้งรัฐบาลฝรั่งเศสและบริษัท Tiffany & Co ต่างขอร้องให้ทางกลุ่มเลื่อนการสรุปข้อตกลงซื้อกิจการมูลค่า 14,500 ล้านดอลลาร์ไปอีก 2-3 เดือน โดยฝ่ายรัฐบาลฝรั่งเศสแจ้งว่า ต้องการจะประเมินผลกระทบของแผนการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจจะเรียกเก็บภาษีสินค้าฝรั่งเศสเพิ่มในเร็วๆ นี้

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทาง LVMH จึงขอแจ้งยกเลิกแผนการปิดการเจรจาการซื้อขายซึ่งมีมูลค่าสูงที่สุดสำหรับธุรกิจสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยนี้ ซึ่งเดิมวางแผนที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายนแล้ว

ขณะเดียว ทาง Tiffany & Co เตรียมยื่นฟ้องศาลเพื่อบังคับใช้เงื่อนไขในข้อตกลงควบรวมกิจการที่ทั้งคู่ลงนามไว้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว พร้อมแย้งว่า เหตุผลที่ LVMH ใช้เพื่อยกเลิกข้อตกลงนี้ไม่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายของฝรั่งเศส ทั้งยังระบุว่า LVMH พยายามหาเหตุผลต่างๆ มาเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดการเจรจาที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้วด้วย

การตกลงซื้อกิจการสินค้าหรูหราในมูลค่าสูงนี้เกิดขึ้นขณะที่ทั่วโลกยังตกอยู่ในภาวะวิกฤติการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทำให้ธุรกิจค้าปลีกทั่วโลกดำดิ่งอย่างรุนแรง

ในช่วงเริ่มต้นของการเจรจาซื้อขายนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ข้อตกลงของทั้งสองเป็นเรื่องที่ดีและจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย แต่การระบาดของโควิด-19 ทำให้ความเชื่อมั่นต่างๆ หดหายไปทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ผลกระทบทางการเงินจากโควิด-19 และการปิดธุรกิจการท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา น่าจะทำให้ยอดขายของตลาดสินค้าประเภทนี้ร่วงลงระหว่าง 20 เปอร์เซ็นต์ ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้ ขณะที่การฟื้นตัวนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นจนกว่าจะถึงปี ค.ศ. 2022 หรือ ค.ศ. 2023 ด้วยซ้ำ

XS
SM
MD
LG