ปัญหาการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์คือปัญหาใหญ่ของโลกปัจจุบัน ผู้คนในหลายประเทศถูกล่อลวงให้ทำงานโดยไม่สมัครใจ รวมทั้งผู้หญิงและเด็กจำนวนมาก องค์กรแรงงานระหว่างประเทศหรือ ILO ชี้ว่าปัจจุบันมีประชากรโลกถูกบังคับใช้แรงงานทั้งในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และภาคบริการ มากกว่า 20 ล้านคน ถือเป็นปัญหาสำคัญทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา
เมื่อเดือนที่แล้ว คณะกรรมการเพื่อความเสมอภาคในการทำงานของสหรัฐอเมริกา (U.S. Equal Employment Opportunity Commission – EEOC) ประกาศว่าบริษัทฟาร์มผลไม้ Del Monte Fresh Produce ยินยอมจ่ายเงินค่าเสียหายมูลค่า 1 ล้าน 2 แสนดอลล่าร์ ให้แก่คนงานไทย 150 คนที่ถูกล่อลวงให้มาทำงานในฟาร์มที่รัฐฮาวาย
คุณเทียม ไชยจิต หนึ่งในคนงานไทยผู้ได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายบอกว่า เงินค่าเสียหายดังกล่าวจะช่วยให้ตนสามารถชดใช้หนี้ส่วนหนึ่งของหนี้ทั้งหมดราว 600,000 บาท ที่ตนต้องจ่ายไปให้กับคนที่ลักลอบนำตัวตนเข้ามามายังอเมริกา ทางด้านคุณ Anna Park ทนายความของ EEOC กล่าวว่าการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อบริษัท Del Monte ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลสหรัฐ ในการแก้ไขปัญหาการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์
อีกด้านหนึ่งที่โบสถ์ All Saints ในเมืองพาซาเดน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย คุณ Ima Matul ชาวอินโดนีเซียผู้ถูกล่อลวงให้มาทำงานเป็นคนรับใช้ตามบ้าน ก่อนที่เธอจะหลบหนีออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ เล่าให้ฟังว่า คนที่พาเธอมาอเมริกาให้สัญญาว่าเธอจะได้เงินเดือนละ $150 และมีวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน นอกจากนี้ยังบอกว่าเธอไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินหรือค่าทำวีซ่าเองด้วย แต่พอมาถึงอเมริกาจริงๆ เธอกลับถูกบังคับให้ทำงานสัปดาห์ละ 7 วัน ถูกทำร้ายและยังไม่ได้รับค่าจ้าง จนในที่สุดเพื่อนบ้านได้ช่วยเหลือเธอออกหลบหนีออกมา
เวลานี้ Ima Matul ทำงานให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Coalition to Abolish Slavery and Trafficking ซึ่งช่วยให้เธอมีชีวิตใหม่และมีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นๆที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน
คุณ Catherine Chen ผู้ทำงานให้กับองค์กร DC for Humanity United กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่รอดชีวิตจากการค้ามนุษย์ หรือผู้หลบหนีออกมาจากการถูกบังคับให้ทำงาน ก็คือที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย ความช่วยเหลือเบื้องต้นทางกฎหมาย และการดูแลสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ
รายงานจาก Mike O’Sullivan / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
เมื่อเดือนที่แล้ว คณะกรรมการเพื่อความเสมอภาคในการทำงานของสหรัฐอเมริกา (U.S. Equal Employment Opportunity Commission – EEOC) ประกาศว่าบริษัทฟาร์มผลไม้ Del Monte Fresh Produce ยินยอมจ่ายเงินค่าเสียหายมูลค่า 1 ล้าน 2 แสนดอลล่าร์ ให้แก่คนงานไทย 150 คนที่ถูกล่อลวงให้มาทำงานในฟาร์มที่รัฐฮาวาย
คุณเทียม ไชยจิต หนึ่งในคนงานไทยผู้ได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายบอกว่า เงินค่าเสียหายดังกล่าวจะช่วยให้ตนสามารถชดใช้หนี้ส่วนหนึ่งของหนี้ทั้งหมดราว 600,000 บาท ที่ตนต้องจ่ายไปให้กับคนที่ลักลอบนำตัวตนเข้ามามายังอเมริกา ทางด้านคุณ Anna Park ทนายความของ EEOC กล่าวว่าการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อบริษัท Del Monte ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลสหรัฐ ในการแก้ไขปัญหาการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์
อีกด้านหนึ่งที่โบสถ์ All Saints ในเมืองพาซาเดน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย คุณ Ima Matul ชาวอินโดนีเซียผู้ถูกล่อลวงให้มาทำงานเป็นคนรับใช้ตามบ้าน ก่อนที่เธอจะหลบหนีออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ เล่าให้ฟังว่า คนที่พาเธอมาอเมริกาให้สัญญาว่าเธอจะได้เงินเดือนละ $150 และมีวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน นอกจากนี้ยังบอกว่าเธอไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินหรือค่าทำวีซ่าเองด้วย แต่พอมาถึงอเมริกาจริงๆ เธอกลับถูกบังคับให้ทำงานสัปดาห์ละ 7 วัน ถูกทำร้ายและยังไม่ได้รับค่าจ้าง จนในที่สุดเพื่อนบ้านได้ช่วยเหลือเธอออกหลบหนีออกมา
เวลานี้ Ima Matul ทำงานให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Coalition to Abolish Slavery and Trafficking ซึ่งช่วยให้เธอมีชีวิตใหม่และมีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นๆที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน
คุณ Catherine Chen ผู้ทำงานให้กับองค์กร DC for Humanity United กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่รอดชีวิตจากการค้ามนุษย์ หรือผู้หลบหนีออกมาจากการถูกบังคับให้ทำงาน ก็คือที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย ความช่วยเหลือเบื้องต้นทางกฎหมาย และการดูแลสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ
รายงานจาก Mike O’Sullivan / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
