รัฐมนตรี John Kerry ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกเดินทางวันพุธนี้เพื่อเยือนเกาหลีใต้และจีน และคาดกันว่า ประเด็นสำคัญจะเป็นเรื่องนักสอนศาสนาอเมริกันเชื้อสายเกาหลีที่ถูกคุมขังอยู่ในเกาหลีเหนือ และโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
นักวิเคราะห์ที่กรุงวอชิงตันให้ความเห็นว่า สหรัฐมีความรู้เกี่ยวกับเกาหลีเหนือและผู้นำ Kim Jong Un น้อยมาก และการที่ต้องพึ่งพาจีนในการติดต่อกับเกาหลีเหนือในเรื่องต่างๆ แม้จะไม่เป็นประโยชน์กับสหรัฐ แต่ก็มองไม่เห็นว่าสหรัฐจะมีทางเลือกอย่างอื่นในเรื่องนี้
Marie Harf โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า จีนมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับเกาหลีเหนือ และก็ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่า เป็นประโยชน์ในการผลักดันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันบางอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นความพยายามที่จะให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์ หรือให้เกาหลีเหนือเลิกกระทำการที่เป็นการยั่วยุ
สหรัฐกำลังพยายามผลักดันเพื่อให้เกาหลีเหนือปล่อยนาย Kenneth Bae นักสอนศาสนาอเมริกันที่ถูกเกาหลีเหนือลงโทษจำคุกเป็นเวลา 15 ปีในข้อหาว่าวางแผนจะโค่นล้มรัฐบาลเกาหลีเหนือ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ถ้าจีนสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ รัฐมนตรี Kerry ก็เต็มใจที่จะพยายามดำเนินการ
ในอีกด้านหนึ่ง ศาสตราจารย์ Lou Goodman ของมหาวิทยาลัย American ในกรุงวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า ความชงักงันในเรื่องเกาหลีเหนือที่มีอยู่ในขณะนี้ แสดงให้เห็นว่า สหรัฐมีความรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในเกาหลีเหนือน้อยมาก โดยเฉพาะตั้งแต่นาย Kim Jong Un ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ
นักวิชาการผู้นี้กล่าวต่อไปว่า ไม่มีใครรู้จริงๆ ว่า ระบอบปกครองใหม่ของเกาหลีเหนือมีความมุ่งหวังอะไรบ้าง เขามองตนเองอย่างไร และไม่มีใครรู้ว่า ใครบ้างที่มีเส้นสายและใครบ้างที่ไม่มีเส้นสาย
และในขณะที่จีนกำลังพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ Michael Auslin นักวิเคราะห์ที่สถาบัน Enterprise ในกรุงวอชิงตัน บอกว่า สหรัฐเองก็ไม่มีความคิดใหม่ๆ ในเรื่องนี้ นอกจากจีน แต่ก็ไม่คิดว่าสหรัฐควรจะหวังพึ่งจีนถ่ายเดียว
นักวิเคราะห์ของสถาบัน Enterprise ในกรุงวอชิงตันผู้นี้ให้ความเห็นว่า จีนไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงสถานภาพที่เป็นอยู่ขณะนี้ เพราะการที่สหรัฐอยู่ในสภาพไม่สมดุลและหมกหมุ่นในเรื่องเกาหลีเหนือ เป็นประโยชน์กับนโยบายของจีน ในขณะที่สหรัฐเองก็ต้องการรักษาสถานภาพที่เป็นอยู่ ก็เพราะต้องทำศึกทั้งในอิรัคและแอฟกานิสถานมาเป็นเวลานานสิบปี และไม่สามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในคาบสมุทรเกาหลีได้
ในขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือได้ใช้ช่วงเวลานี้กลับไปสร้างสมรรถนะทางนิวเคลียร์ของตนเพิ่มขึ้น และแม้สหรัฐจะยืนยันว่า จะไม่ยอมกลับไปเจรจากับเปียงยางอีกจนกว่าเปียงยางจะยอมให้มีการเข้าไปตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ได้อีก ก็ไม่มีใครเชื่อว่าเปียงยางพร้อมที่จะทำเช่นนั้น
ศาสตราจารย์ Lou Goodman ของมหาวิทยาลัย American ในกรุงวอชิงตัน เตือนว่า ผู้นำประเทศเล็กๆ ที่ถูกกดดันมากๆ จนรู้สึกจนตรอก อาจจะทำอะไรที่เป็นความเสียหายใหญ่หลวงขึ้นได้ และคิดว่าจีนก็มีความวิตกเช่นนั้นด้วย
นอกจากเกาหลีเหนือแล้ว รัฐมนตรี John Kerry ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ยังหวังจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเกี่ยวกับการอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือหมู่เกาะที่คาดว่าอาจจะมีแหล่งแก๊สธรรมชาติใหญ่อยู่ในบริเวณนั้นด้วย
นักวิเคราะห์ที่กรุงวอชิงตันให้ความเห็นว่า สหรัฐมีความรู้เกี่ยวกับเกาหลีเหนือและผู้นำ Kim Jong Un น้อยมาก และการที่ต้องพึ่งพาจีนในการติดต่อกับเกาหลีเหนือในเรื่องต่างๆ แม้จะไม่เป็นประโยชน์กับสหรัฐ แต่ก็มองไม่เห็นว่าสหรัฐจะมีทางเลือกอย่างอื่นในเรื่องนี้
Marie Harf โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า จีนมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับเกาหลีเหนือ และก็ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่า เป็นประโยชน์ในการผลักดันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันบางอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นความพยายามที่จะให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์ หรือให้เกาหลีเหนือเลิกกระทำการที่เป็นการยั่วยุ
สหรัฐกำลังพยายามผลักดันเพื่อให้เกาหลีเหนือปล่อยนาย Kenneth Bae นักสอนศาสนาอเมริกันที่ถูกเกาหลีเหนือลงโทษจำคุกเป็นเวลา 15 ปีในข้อหาว่าวางแผนจะโค่นล้มรัฐบาลเกาหลีเหนือ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ถ้าจีนสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ รัฐมนตรี Kerry ก็เต็มใจที่จะพยายามดำเนินการ
ในอีกด้านหนึ่ง ศาสตราจารย์ Lou Goodman ของมหาวิทยาลัย American ในกรุงวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า ความชงักงันในเรื่องเกาหลีเหนือที่มีอยู่ในขณะนี้ แสดงให้เห็นว่า สหรัฐมีความรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในเกาหลีเหนือน้อยมาก โดยเฉพาะตั้งแต่นาย Kim Jong Un ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ
นักวิชาการผู้นี้กล่าวต่อไปว่า ไม่มีใครรู้จริงๆ ว่า ระบอบปกครองใหม่ของเกาหลีเหนือมีความมุ่งหวังอะไรบ้าง เขามองตนเองอย่างไร และไม่มีใครรู้ว่า ใครบ้างที่มีเส้นสายและใครบ้างที่ไม่มีเส้นสาย
และในขณะที่จีนกำลังพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ Michael Auslin นักวิเคราะห์ที่สถาบัน Enterprise ในกรุงวอชิงตัน บอกว่า สหรัฐเองก็ไม่มีความคิดใหม่ๆ ในเรื่องนี้ นอกจากจีน แต่ก็ไม่คิดว่าสหรัฐควรจะหวังพึ่งจีนถ่ายเดียว
นักวิเคราะห์ของสถาบัน Enterprise ในกรุงวอชิงตันผู้นี้ให้ความเห็นว่า จีนไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงสถานภาพที่เป็นอยู่ขณะนี้ เพราะการที่สหรัฐอยู่ในสภาพไม่สมดุลและหมกหมุ่นในเรื่องเกาหลีเหนือ เป็นประโยชน์กับนโยบายของจีน ในขณะที่สหรัฐเองก็ต้องการรักษาสถานภาพที่เป็นอยู่ ก็เพราะต้องทำศึกทั้งในอิรัคและแอฟกานิสถานมาเป็นเวลานานสิบปี และไม่สามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในคาบสมุทรเกาหลีได้
ในขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือได้ใช้ช่วงเวลานี้กลับไปสร้างสมรรถนะทางนิวเคลียร์ของตนเพิ่มขึ้น และแม้สหรัฐจะยืนยันว่า จะไม่ยอมกลับไปเจรจากับเปียงยางอีกจนกว่าเปียงยางจะยอมให้มีการเข้าไปตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ได้อีก ก็ไม่มีใครเชื่อว่าเปียงยางพร้อมที่จะทำเช่นนั้น
ศาสตราจารย์ Lou Goodman ของมหาวิทยาลัย American ในกรุงวอชิงตัน เตือนว่า ผู้นำประเทศเล็กๆ ที่ถูกกดดันมากๆ จนรู้สึกจนตรอก อาจจะทำอะไรที่เป็นความเสียหายใหญ่หลวงขึ้นได้ และคิดว่าจีนก็มีความวิตกเช่นนั้นด้วย
นอกจากเกาหลีเหนือแล้ว รัฐมนตรี John Kerry ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ยังหวังจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเกี่ยวกับการอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือหมู่เกาะที่คาดว่าอาจจะมีแหล่งแก๊สธรรมชาติใหญ่อยู่ในบริเวณนั้นด้วย
