องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ หรือ NOAA เพิ่งออกมาเปิดเผยอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เราได้ก้าวผ่านเดือนที่ร้อนระอุที่สุดแห่งปีกันมาแล้ว โดยค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิโลกเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 16.75 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุณหภูมิตลอดศตวรรษที่ 20 เกือบ 1 องศาเซลเซียส
ทาง NOAA ระบุว่า เดือนกรกฎาคมปีนี้มีอุณหภูมิสูงสุดเป็นสถิติใหม่เท่าที่เคยมีการบันทึกข้อมูลสภาพอากาศมา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1880 โดยทำลายสถิติเดิมเมื่อ 3 ปีก่อนมาได้
โดยหลายพื้นที่ทั่วโลกได้สร้างสถิติอากาศร้อนเป็นประวัติการณ์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเช่นกัน อย่างที่อะแลสกา ก็เจอกับอากาศร้อนจัดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลด้านสภาพอากาศในปี ค.ศ. 2005 และหลายประเทศทั่วยุโรปและแอฟริกา ต่างทยอยทำสถิติใหม่จากอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นกันถ้วนหน้า
และด้วยอากาศร้อนจัดเป็นประวัติการณ์นี้ ยังทำให้ปริมาณน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ด้วยเช่นกัน ตามข้อมูลของ National Snow and Ice Data Center ที่ใช้ข้อมูลจากองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ และองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA มาใช้ในการวิเคราะห์ระดับน้ำแข็งในขั้วโลก พบว่าระดับน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือลดลงต่ำสุดในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึงร้อยละ 19.8 เลวร้ายกว่าสถานการณ์เมื่อปี ค.ศ. 2012
ขณะที่ขั้วโลกใต้มีปริมาณน้ำแข็งลดลงร้อยละ 4.3 จากค่าเฉลี่ยช่วงปี ค.ศ. 1981-2010 ซึ่งนับว่าต่ำสุดในรอบ 41 ปีเช่นกัน