ในวันอังคารที่ 26 มิถุนายนนี้ หลายรัฐในสหรัฐฯ จะจัดการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นเพื่อหาคนเข้ามาทำงานในตำแหน่งสำคัญของรัฐบาลส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้นๆ รวมทั้งจะมีการเลือกตั้งสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันที่จะนั่งในคณะกรรมการกลางของแต่ละพรรคตามเขตการปกครองต่างๆ
และที่เขตการปกครอง Prince George ของรัฐแมรีแลนด์ ไม่ไกลจากกรุงวอชิงตัน คลิฟฟ์ กรีน (Cliff Green) หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 23 ปี ได้ลงสมัครเลือกตั้งในตำแหน่งคณะกรรมการกลางพรรคเดโมแครต หรือ Democrat Central Committee ประจำเขตการเลือกตั้งที่ 21 ด้วย
ประเด็นสำคัญที่ คลิฟฟ์ กรีน ใช้ชูธงในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ มี 3 ประเด็น หนึ่งคือ การสนับสนุนให้คนอเมริกันทุกคนได้ประกันสุขภาพจากรัฐบาล หรือ Medicare for All สองคือ สนับสนุนค่าเล่าเรียนราคาถูกในระดับมหาวิทยาลัย หรือ College for All และสามคือ เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง
ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุน้อย ยังขาดทั้งประสบการณ์และเงินทุนสนับสนุนในการหาเสียง ทำให้คลิฟฟ์ต้องใช้วิธีหาเสียงแบบเดินเคาะประตูตามบ้านเป็นหลัก ซึ่งก็มีเสียงตอบรับดีพอสมควร
คลิฟฟ์ บอกว่าเจ้าของบ้านส่วนใหญ่รู้สึกชื่นชมที่เห็นคนรุ่นใหม่ในชุดที่มีสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยมาเคาะบ้าน และต่างเชื่อว่าตนลงสมัครเพราะต้องการเข้าไปแก้ปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่จริงๆ
และเนื่องจากคลิฟฟ์ยังคงมีสถานะเป็นนักศึกษาที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐแมรีแลนด์ การแบ่งเวลาสำหรับการเรียนและการหาเสียงจึงเป็นเรื่องท้าทายไม่น้อยสำหรับผู้ลงสมัครเชื้อสายไทยผู้นี้ ซึ่งนักการเมืองรุ่นใหม่คนนี้บอกว่า แม้จะเหนื่อย แต่ก็ได้ประสบการณ์ที่ดี และยังสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้จากสนามเลือกตั้งไปใช้กับวิชาที่เรียนได้อีกด้วย
และสำหรับโอกาสชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ คลิฟฟ์ กรีน มองว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นเช่นนี้ การเข้าหาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแบบถึงตัว-ถึงบ้าน เพื่อรับรู้ปัญหาที่แท้จริงของพวกเขานั้นเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งยังไม่เห็นคู่แข่งของตนทำเช่นนี้มากนัก และแม้จะไม่มีการทำโพลล์ออกมา แต่ก็เชื่อว่าน่าจะมีโอกาสชนะไม่น้อย
ในเขตการเลือกตั้ง 21 ที่ คลิฟฟ์ ลงรับสมัคร มีคนไทยอาศัยอยู่บ้างในจำนวนที่ไม่มากนัก
หนึ่งในนั้นคือ คุณสุเมธ จิระวจนกุล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ออกมาสนับสนุนหนุ่มลูกครึ่งไทย – อเมริกัน
โดยคุณสุเมธเชื่อว่า หากในอนาคตนักการเมืองเชื้อสายไทยผู้นี้ได้เข้าไปนั่งในสภา และสามารถผนึกกำลังกับนักการเมืองเชื้อสายเอเชียคนอื่นๆ ก็จะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อชุมชนชาวเอเชียและชาวไทยในสหรัฐฯ
(รับฟังรายงานสัมภาษณ์ คลิฟฟ์ กรีน จากรายการข่าวสดสายตรงจากกรุงวอชิงตัน)