ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การตลาดแบบติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคทางอินเตอร์เนตด้วย cookies


การตลาดแบบติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคทางอินเตอร์เนตด้วย cookies
การตลาดแบบติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคทางอินเตอร์เนตด้วย cookies

ผู้ใช้อินเตอร์เนตควรเรียนรู้และตระหนักถึงสิ่งที่ตามมากับเว็บไซต์ต่างๆ เช่นการที่ความเคลื่อนไหวทุกอย่างทางอินเตอร์เนตของคุณกำลังถูกติดตามโดยซอฟท์แวร์บางชนิด เพื่อผลประโยชน์ทางการตลาดและด้านอื่นๆ

เว็บไซต์ หรือบริษัทโฆษณาออนไลน์ หรือบรรดาผู้เก็บข้อมูลทางอินเตอร์เนตมากมาย ได้ใช้เทคโนโลยีติดตามพฤติกรรมทางอินเตอร์เนตของผู้บริโภคเพื่อประโยชน์ทางการตลาด กล่าวคือไม่ว่าคุณจะเข้าเว็บไซต์ใด มีแนวโน้มชอบอะไร และที่สำคัญ ต้องการจะซื้ออะไร เครือข่ายบริษัทโฆษณาออนไลน์เหล่านั้นสามารถล่วงรู้ได้เหมือนเข้าไปนั่งอยู่ในใจของคุณ จากนั้นจึงส่งโฆษณาต่างๆมาที่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงกับความต้องการ

วิธีทางการตลาดดังกล่าวก็คือ เมื่อคุณกดปุ่มเข้าไปยังเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งในจำนวนพันๆหมื่นๆเว็บไซต์ที่อยู่ในเครือข่ายโฆษณาออนไลน์ เว็บไซต์นั้นจะปล่อยซอฟท์แวร์ที่เรียกว่า cookies ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่ง cookies นั้นจะติดตามคุณไปทั่วเมื่อคุณท่องเว็บต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลและนำมาประกอบเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภคผู้นั้น จากนั้นนักการตลาดจึงนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์เพื่อดูว่า สินค้าใดจะเหมาะสมกับคุณที่สุด จึงอาจกล่าวได้ว่าเครือข่ายโฆษณาทางอินเตอร์เนตนั้นคือตัวกลางระหว่างนักการตลาดกับผู้บริโภคออนไลน์นั่นเอง โดยข้อมูลที่มาจาก cookies นี้ยังถูกใช้โดยบริษัทรวบรวมข้อมูล ซึ่งจะจัดข้อมูลของลูกค้าแต่ละตนเป็นกลุ่มต่างๆ มัดรวมแล้วส่งขายให้แก่เครือข่ายโฆษณาต่อไป

อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิจารณ์ชี้ว่าการตลาดลักษณะนี้มีการเก็บข้อมูลมากเกินไป และข้อมูลเหล่านั้นสามารถเปิดเผยถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อินเตอร์เนตได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านเชื้อชาติ ด้านเพศ สุขภาพหรือการเงิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างคาดไม่ถึงหากมีผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถหาช่องทางเข้าถึงข้อมูลสำคัญนั้น เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Facebook เป็นอีกเว็บไซต์หนึ่งที่ใช้ cookies ในการติดตามข้อมูลของสมาชิกแต่ละคน โดยข้อมูลที่ให้ไว้กับทาง Facebook ตั้งแต่ช่วงลงทะเบียนจะเชื่อมโยงสมาชิกผู้นั้นกับข้อมูลที่ cookies ติดตามสืบเสาะได้ในเวลาต่อมา

ทางด้านเว็บไซต์ต่างๆและเครือข่ายโฆษณาออนไลน์กล่าวว่า พวกตนปฏิบัติตามกฎหมายห้ามแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะข้อมูลด้านสุขภาพและการเงิน นอกจากนี้โปรแกรมปกป้องตนเองสำหรับผู้ใช้อินเตอร์เนตยังสร้างทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้มีซอฟท์แวร์ cookies ติดตามตนอีกต่อไป แต่ในขณะเดียวกัน นักวิจารณ์ให้ความเห็นว่า แทนที่จะมีทางเลือกให้ผู้บริโภคยกเลิก ควรจะมีทางเลือกให้ผู้ใช้อินเตอร์เนตไม่ต้องถูกติดตามข้อมูลตั้งแต่แรกจะดีกว่า เช่นก่อนที่จะเข้าเว็บไซต์ใด ก็ควรมีคำถามแสดงขึ้นมาก่อนว่า “คุณต้องการให้เราติดตามข้อมูลของคุณเพื่อจัดหาข้อเสนอที่ดีที่สุดให้ไหม?” ซึ่งจะง่ายต่อผู้บริโภคในการเลือกว่าจะเปิดรับหรือปิดกั้น cookies นั้น

แต่ไม่ว่าจะเลือกก่อนหรือยกเลิกทีหลัง ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์บางคนชี้ว่า ที่จริงแล้วผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทุกคนทุกเครื่องมีโอกาสเลือกได้ว่าจะรับ cookies นั้นหรือไม่ ด้วยการปรับค่าความเป็นส่วนตัวในการเข้าอินเตอร์เนตซึ่งมีอยู่ในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์บางคนยังคงระบุถึงซอฟท์แวร์บางตัวที่เรียกว่า flash cookies และ super cookies ซึ่งสามารถเล็ดลอดหนีการตั้งค่าควบคุมต่างๆได้ พร้อมทั้งยืนยันว่า หนทางที่ดีที่สุดในการปกป้องความเป็นส่วนตัวทางอินเตอร์เนต คือรัฐบาลต้องเป็นผู้จัดให้มีกฎเกณฑ์ควบคุมที่สมเหตุสมผล และที่สำคัญผู้บริโภคต้องปกป้องดูแลข้อมูลส่วนตัวของตนเอง

XS
SM
MD
LG