ในอำเภอนาคอุระที่อยู่ห่างไกลทางตอนเหนือของรัฐราฏชะสถาน แผงโซล่าจำนวนหลายแผงติดตั้งโดยบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง สะท้อนแสงแดดจ้า สามารถผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 5 เมกกะวัตต์ ให้กับประชาชนหลายร้อยครัวเรือนในพื้นที่
คุณอินเดรอร์ปรีท วัดดา เป็นเจ้าของบริษัท แอชเช่อร์ พาวเว่อร์ (Azure Power) บริษัทเอกชนที่ลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ ทางบริษัทตั้งเป้าว่าจะเพิ่มการผลิตขึ้นไปให้ได้ถึง 35 เมกกะวัตต์
การลงทุนผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รายย่อยแบบนี้เริ่มเฟื่องฟูมากขึ้นในหลายๆรัฐทั่วอินเดีย นักธุรกิจและนักลงทุนเริ่มหันมาลงทุนในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนนี้มากขึ้นเพราะเห็นศักยภาพในการลงทุน
คุณวัดดา กล่าวว่า ตอนนี้คนมองว่า นี่ไม่ใช่โครงการทดลองหรือโครงการนำร่อง แต่นี่เป็นการทำธุรกิจที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดพลังงาน
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน อินเดียไม่มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เลยทั้งๆแดดจ้าตลอดทั้งปี ค่าลงทุนในอุปกรณ์ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ที่สูงมากเป็นอุปสรรคหลักต่อการลงทุน
อินเดียประสบกับปัญหาผลิตกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอแก่ความต้องการและยังเจอกับแรงกดดันให้ลดปริมาณก็าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในอากาศ ทางการจึงริเริ่มโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งชาติ เมื่อสองปีที่แล้ว เป้าหมายคือการผลิตกระแสไฟฟ้ืาให้ได้สองหมื่นเมกกะวัตต์ภายใน 12 ปี เพื่อลดการใช้ถ่านหินในโรงงานผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักของอินเดีย
คุณทุบายอ้าส อิงเกลไมเออร์ ผู้อำนวยการบริษัท Bridge to India บริษัทที่ปรึกษาและทำวิจัยในนครนิวเดลลี กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ราคาแผ่นโซล่าในตลาดนานาชาติที่ลดลงอย่างมากในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา น่าจะช่วยให้อินเดียผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ แม้ว่าเป้าที่ตั้งไว้จะสูงมากก็ตาม
คุณอิงเกลไมเออร์ กล่าวว่า ในช่วงปีแรกของโครงการ ทั้งนักลงทุนต่างประเทศและบริษัทต่างชาติต่างไม่แน่ใจว่าโครงการนี้จะป็นไปได้ พวกเขาไม่มั่นใจว่าอินเดียจะกลายเป็นตลาดพลังงานที่ให้ผลกำไร เขาบอกว่า มุมมองเรื่องนี้เปลี่ยนไปหลังจากราคาต้นทุนของแผ่นโซล่าทั่วโลกลดลงถึง 30เปอร์เซ็นต์
แม้ว่าราคาต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ยังสูงกว่าการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหินถึงสองเท่าตัว แต่เมื่อเทียบแล้วกลับถูกกว่าการผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันแพร่หลายในครัวเรือนทั่วไปของอินเดียและโรงงาน เพื่อผลิตไฟฟ้าเสริมไว้ใช้ตอนทางการต้องตัดการจ่ายไฟชั่วคราว เนื่องจากอินเดียยังผลิตไฟฟ้าไม่พอกับความต้องการใช้ในประเทศ
อินเดียนำต้องเข้าอุปกรณ์ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ทั้งหมดจากต่างประเทศ อาทิ จากจีน อเมริกา และยุโรป ผู้เกี่ยวข้องในอินเดียคาดหวังว่า อินเดียอาจจะสามารถผลิตอุปกรณ์ขึ้นเองในอนาคต
ผู้สื่อข่าววีโอเอที่กรุงนิวเดลลี รายงานว่า ความนิยมผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดียนี้ ถือเป็นข่าวดี แก่ทั้งอินเดียและชาวโลก เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในอินเดียแล้ว ยังจะช่วยลดปัญหาโลกร้อนด้วยเพราะจะช่วยอินเดียลดการปล่อยก้าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้า
