ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO อากาศในฮ่องกงปลอดภัยพอที่จะสูดหายใจได้เพียง 41 วันต่อปีเท่านั้น
นอกจากจะกล่าวโทษรถยนต์ โรงไฟฟ้า และโรงงานในภาคใต้ของจีนแล้ว การขนส่งทางเรือยังก่อมลพิษทางอากาศให้ฮ่องกงมากเกือบ 10% ของปริมาณมลพิษทางอากาศที่วัดได้ อาจารย์ C.M. Wong ผู้เชี่ยวชาญการสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งศึกษาเรื่องคุณภาพอากาศมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี บอกว่า ฮ่องกงเป็นเมืองท่าสำคัญ และการขนส่งจราจรทางน้ำ ก่อมลพิษให้เป็นอย่างมาก
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้อธิบายว่า การจราจรทางเรืออาศัยการเผาผลาญน้ำมันที่มีซัลเฟอร์สูง และ Sulfur dioxide ที่ออกมาจากการเผาผลาญนี้ เป็นตัวการสำคัญต่อการเป็นโรคหัวใจและโรคปอด
อาจารย์ Wong และทีมงานประมาณว่า Sulfur dioxide ในอากาศ ประกอบด้วยโอโซน Nitrogen dioxide และฝุ่นละออง ทำให้ฮ่องกงต้องเสียค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลผู้คน และสูญเสียผลิตภาพเป็นมูลค่าราวๆสองพันสองร้อยล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี เฉพาะในปีนี้ มลพิษทางอากาศทำให้มีผู้เสียชีวิตก่อนกำหนดไปแล้ว 480 ราย
แต่เวลานี้มีบริการเรือโดยสารข้ามฟากแห่งหนึ่งในฮ่องกงที่คุยอวดว่า จะไม่ปล่อยมลพิษทางอากาศออกมา
คุณ Gillian Leung เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของสนามกอล์ฟที่เกาะ Kau Sai Chau บอกว่า เรือ Solar Golf ซึ่งให้บริการขนส่งนักกอล์ฟระหว่างเกาะฮ่องกงกับ Kau Sai Chau เป็นเรือไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ คู่ขนานกับเครื่องดีเซล จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 50% และลดค่าใช้จ่ายลงได้ราวๆ 320,000 ดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายของบริการเรือข้ามฟากในขณะนี้
นอกจาก Solar Golf แล้ว ยังจะมีเรือแบบเดียวกันนี้อีกสามลำมาให้บริการนักกอล์ฟในเร็วๆนี้ด้วย และนอกจากเรือข้ามฟากไฮบริดแล้ว รถสำหรับนักกอล์ฟในสนามที่ Kau Sai Chau ทั้ง 205 คันเวลานี้ก็แปลงเป็นรถที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์แล้วด้วย
คุณ Gillian Leung ประชาสัมพันธ์ของสนามบอกว่า ทั้งเรือและรถกอล์ฟ จะช่วยลดการปล่อย Carbon dioxide ออกสู่บรรยากาศโลกได้มากถึง 1,280 ตันต่อปี หรือเท่ากับมีต้นไม้โตเต็มที่ 188,000 ต้น มาช่วยซึมซับมลพิษทางอากาศให้