นาย Francois Hollande นักสังคมนิยมชาวฝรั่งเศสผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี วัย 57 ปี ไม่เคยมีตำแหน่งในคณะรัฐบาลระดับชาติมาก่อน แม้จะเป็นนักการเมืองที่เป็นที่รู้จักมานานกว่า 30 ปีแล้วก็ตาม
นาย Dominique Moisi ที่ปรึกษาอาวุโสของ French Institute of International Affairs ในกรุงปารีส เล่าประวัติย่อๆของนาย Hollande ว่า เรียนหนังสือมาจาก National School of Administration ซึ่งเป็นโรงเรียนของพวกปัญญาชน และทำงานในทำเนียบประธานาธิบดี Francois Mitterrand ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ผู้น้อย
ต่อจากนั้น เขารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคสังคมนิยมอยู่ 11 ปี ก่อนที่จะประกาศสมัครรับเลือกตั้งช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาชนะการเลือกตั้งขั้นต้นภายในพรรค และได้ประโยชน์จากกรณีอื้อฉาวของนาย Dominque Strauss-Kahn ซึ่งก่อนหน้านั้น เป็นตัวเก็งที่จะเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับเขาด้วยคนหนึ่ง
นโยบายเศรษฐกิจของนาย Francois Hollande ตามที่ประกาศไว้ตอนหาเสียง รวมถึงการขึ้นภาษีสำหรับคนร่ำรวย การตรึงราคาเชื้อเพลิง การเพิ่มเงินสวัสดิการสังคม และการจ้างครูใหม่หกหมื่นคน
และแม้คำขวัญของนาย Hollande ในตอนหาเสียงจะระบุว่า “ศัตรูของเขาคือธุรกิจการเงิน” ขณะเดียวกัน เขาก็กล่าวไว้ด้วยว่า เขาไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
นาย Bruno Cautres ผู้เชี่ยวชาญการเลือกตั้งของฝรั่งเศสที่ Center for Political Research ในกรุงปารีส บอกว่า เจตนาของนาย Hollande คือจะบอกว่า เขามิใช่ผู้นิยมมาร์กซ และมิใช่คอมมิวนิสต์ เขาอยากจะรับรองกับวงการธุรกิจการเงินและการค้าระหว่างประเทศว่า นักสังคมนิยมก็เป็นผู้มุ่งประโยชน์ในทางปฏิบัติได้ด้วย และฝรั่งเศสจะไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนนาย Charles Kupchan ผู้เชี่ยวชาญเรื่องยุโรปของ Council on Foreign Relations ที่กรุงวอชิงตันบอกว่า นาย Hollande อาจจะมีปัญหากับนายกรมต.ของเยอรมนี นาง Angela Merkel จากการที่นาย Hollande เรียกร้องให้นำข้อตกลงทางการคลังของสหภาพยุโรป มาเจรจากันใหม่
ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งนายกรมต. เยอรมนีเป็นผู้นำในการเจรจา มุ่งจะสร้างเสถียรภาพทางการเงินให้กับยุโรป ซึ่งกำลังประสบวิกฤติการเงิน โดยกำหนดให้ประเทศต่างๆที่มีภาระหนี้สินอย่างมากจนช่วยตนเองไม่ได้ ดำเนินมาตรการรัดเข็มขัด แทนการใช้จ่ายเงินโดยรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นมาตรการที่นาย Francois Hollande สนับสนุน
นักวิเคราะห์ของ Council on Foreign Relations ผู้นี้ ไม่คิดว่านาย Hollande จะเปลี่ยนแปลงนโยบายของฝรั่งเศสให้แตกต่างไปจากประธานาธิบดี Sarkozy ได้มากนัก แต่ที่จะแตกต่างคือ จะไม่สนิทสนมกลมกลืนกับสหรัฐมากเหมือนประธานาธิบดี Sarkozy ซึ่งนาย Dominique Moisi ที่ปรึกษาอาวุโสของ French Institute of International Affairs ในกรุงปารีส เห็นด้วย
และบอกว่า ประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสจะมีทีท่าแตกต่างไปจากคนเก่า แต่จะไม่มีความแตกต่างอย่างสำคัญในเรื่องนโยบายต่างประเทศ
ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับปารีส
