คณะบริหารรัฐบาลของ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตอบโต้รายงานของนิวยอร์กไทม์ส โดยเรียกว่าเป็น “ข่าวปลอม” หลังรายงานข่าวดังกล่าวได้ระบุว่าสหรัฐฯ ได้ข่มขู่ชาติอื่นๆ ว่าจะตอบโต้ทางการค้าหากสนับสนุนมติขององค์การอนามัยโลก ที่ให้รัฐบาลชาติต่างๆ ทั่วโลกส่งเสริมการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
กระทรวงการต่างประเทศเเละกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์หลายชิ้น โดยชี้เเจงว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ต่อต้านการเลี้ยงลูกด้วยนมมารดา แต่ทั้งสองกระทรวงได้ออกมากล่าวปกป้องการเลี้ยงทารกด้วยนมผง เเละชี้ว่าผู้หญิงบางคนอาจเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาไม่ได้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไปหลายอย่าง อาทิ มีน้ำนมไม่เพียงพอ หรือใช้ยารักษาโรคบางอย่างที่ไม่เหมาะแก่การเลี้ยงลูกด้วยนมมารดา
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าทารกหลายล้านคนทั่วโลกจะเติบโตและมีสุขภาพเเข็งเเรง หากมารดาเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตนเองเพียงอย่างเดียวในช่วงหกเดือนเเรกหลังคลอด และยิ่งดีขึ้นไปอีกหากทำได้นานกว่านั้น
นายแพทย์ เดนนิส กัว (Dr. Dennis Kuo) ผู้อำนวยการศูนย์กุมารแพทย์ทั่วไป ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบัฟฟาโล กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ในขณะที่มารดาต้องมีทางเลือกหลายอย่าง แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ชี้ชัดถึงผลดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมมารดา
ทางด้านแพทย์หญิง โจแอน ยังเกอร์ มีค (Dr. Joan Younger Meek) แห่งภาควิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐฟลอริดา กล่าวว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาช่วยปรับปรุงโภชนาการให้ดีขึ้น ลดการติดเชื้อเเละถูกกว่าการเลี้ยงทารกด้วยนมผง
เธอกล่าวว่า ทันทีหลังคลอด ทารกจะได้รับคอลอสตัมหรือน้ำนมเหลืองจากมารดาที่อุดมด้วยภูมิคุ้มกันร่างกายเพื่อปกป้องทารกจากการติดเชื้อ
แพทย์หญิงมีค กล่าวว่า ชาติพัฒนาเเล้ว อาทิ สหรัฐฯ ผู้หญิงต้องการเเรงสนับสนุนทางสังคมให้สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาในที่สาธารณะได้ ในบางกรณีถูกห้ามให้นมลูกที่สนามบิน ในร้านอาหาร เเละในที่สาธารณะอื่นๆ หญิงในสหรัฐฯ บางคนถูกขอให้ไปให้นมลูกในห้องน้ำ
ในชาติรายได้น้อยเเละรายได้ปานกลาง การเลี้ยงลูกด้วยนมมารดายิ่งมีความสำคัญมากกว่าในประเทศพัฒนาเเล้ว เพราะในหลายประเทศด้อยพัฒนา ผู้หญิงอาจไม่มีน้ำสะอาดใช้ในการผสมนมผงให้ลูก
นายแพทย์กัว กล่าวว่า นมผงได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นตลอดเวลาที่ผ่านมาโดยมีการเติมกรดไขมันหลายชนิดเเละโปรตีนที่มีคุณภาพดีกว่าเดิม เเต่เขาชี้ว่าไม่มีอะไรทดแทนน้ำนมมารดาได้ และนอกจากนี้การเลี้ยงลูกด้วยนมมารดายังดีกับตัวมารดาเองด้วย อาทิ ช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอด
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
