ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ระเบิดคูหาเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ บาดเจ็บ 9 ราย!


Voters cast their ballots on Monday, May 9, 2022, in Quezon City, Philippines. Nine people were wounded when five grenades exploded outside a different polling station.
Voters cast their ballots on Monday, May 9, 2022, in Quezon City, Philippines. Nine people were wounded when five grenades exploded outside a different polling station.

เกิดเหตุระเบิด 5 ครั้งด้านนอกคูหาเลือกตั้งบนเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 9 คน ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในวันจันทร์ จากการเปิดเผยของตำรวจฟิลิปปินส์

การโจมตีครั้งแรกเกิดขึ้นที่ตำบลดาตู อันเซย์ บนเกาะมินดาเนา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มแข็งข้อต่อต้านรัฐบาล ไปจนถึงกลุ่มนักรบอิสลามแนวคิดสุดโต่ง ก่อนที่จะเกิดเหตุปาระเบิดอีกครั้งที่ตำบลชารีฟ อาควัก ที่อยู่ติดกัน แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

การเลือกตั้งในฟิลิปปินส์มักเป็นช่วงเวลาที่เกิดความรุนแรงในประเทศที่ไม่มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืน และมีวัฒนธรรมทางการเมืองที่รุนแรง โดยเมื่อปีค.ศ. 2009 เคยเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกราดใส่ประชาชนที่กำลังไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 58 คน ในจำนวนนั้นมีหลายสิบคนที่เป็นผู้สื่อข่าวที่กำลังรายงานข่าวการเลือกตั้ง

ซารา ดูเตอร์เต บุตรสาวของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดี และเป็นอดีตนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาบนเกาะมินดาเนา กล่าวว่า เธอขอให้ประชาชนอย่าหวาดกลัวที่จะออกมาใช้สิทธิ์เพียงเพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้

ทางการฟิลิปปินส์จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่ง เข้าประจำตามคูหาเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่เลือกตั้งและประชาชน

ตำรวจฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมจนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีรายงานเหตุการณ์โจมตีที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งไปแล้ว 16 ครั้ง ซึ่งค่อนข้างสงบเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ซึ่งเกิดเหตุรุนแรง 133 ครั้ง

ทั้งนี้ มีชาวฟิลิปปินส์ราว 65 ล้านคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในวันจันทร์นี้ ซึ่งนอกจากจะเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงแล้ว ยังมีการลงคะแนนเสียงที่นั่งสำคัญอื่น ๆ อีก 18,000 ตำแหน่ง ตั้งแต่ ส.ส. และ ส.ว. ไปจนถึงผู้ว่าการจังหวัดและนายกเทศมนตรีด้วย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลการสำรวจคะแนนประชานิยมครั้งล่าสุดชี้ให้เห็นว่า เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "บองบอง" บุตรชายของอดีตผู้นำเผด็จการ "เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส" มีคะแนนนำคู่แข่งสำคัญ คือ รองประธานาธิบดี เลนี โรเบรโด มากกว่า 30% และมีคะแนนนำโด่งในทุกโพลล์ในปีนี้ ซึ่งหมายความว่า มาร์กอส จูเนียร์ อาจได้เป็นผู้นำคนต่อไป หลังจากที่ระบอบการปกครองของมาร์กอสผู้พ่อถูกประชาชนโค่นอำนาจลงเมื่อ 36 ปีก่อน

  • ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์
XS
SM
MD
LG