ลิ้งค์เชื่อมต่อ

นายบัน คี มูนกล่าวเปิดการประชุมเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเน้นถึงความจำเป็นของการเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ


นายบัน คี มูนกล่าวเปิดการประชุมเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเน้นถึงความจำเป็นของการเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ
นายบัน คี มูนกล่าวเปิดการประชุมเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเน้นถึงความจำเป็นของการเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ

ผู้แทนกว่า 2 พันคนจากรัฐบาลประเทศต่างๆ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร องค์กรเพื่อสังคมและภาคเอกชน กำลังเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ซึ่งสหประชาชาติเป็นผู้สนับสนุนการประชุมครั้งนี้

ภัยธรรมชาติทั่วโลกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เมื่อปีที่แล้วภัยธรรมชาติครั้งใหญ่คือเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเฮติซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3 แสนคนและไร้ที่อยู่อาศัยอีกนับล้านคน มาในปีนี้ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิในญี่ปุ่นคร่าชีวิตผู้คนนับหมื่นคน และผลกระทบของเหตุการณ์ดังกล่าวยังต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ในรูปของวิกฤตการณ์ด้านนิวเคลียร์

เลขาธิการใหญ่สหประชาชาตินายบัน คี มูน คือผู้หนึ่งที่ประสบกับผลกระทบของเหตุการณ์เหล่านี้และภัยธรรมชาติครั้งอื่นๆด้วยตัวเอง ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของผู้ประสบภัย และได้กล่าวไว้ว่า ไม่ว่าประเทศใดเมืองใด ร่ำรวยหรือยากจน ต่างมีโอกาสเผชิญกับภัยธรรมชาติเท่าเทียมกัน นายบัน คี มูนระบุว่าการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีจะสามารถช่วยลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติต่างๆได้

เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติชี้ว่าเมื่อประเทศต่างๆลงทุนมากขึ้นในด้านการเตือนภัยและเตรียมพร้อม จำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติเช่นน้ำท่วมและพายุไต้ฝุ่นมีแนวโน้มลดลง แต่ในขณะเดียวกันความสูญเสียทางเศรษฐกิจและความเสียหายที่เกิดขึ้นยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อไป นายบัน คี มูนเตือนว่าปัจจุบันความเสี่ยงต่อการเกิดภัยธรรมชาติทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ความสามารถในการฟื้นฟูหลังหายนะกลับเพิ่มไม่ทันความเสี่ยงดังกล่าว

เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติยังบอกด้วยว่าในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ประเทศต่างๆจำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างชาญฉลาดในด้านที่เกี่ยวกับการลงทุนเพื่อลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติต่างๆ การเตรียมพร้อมส่วนท้องถิ่น การสร้างระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ การใช้ที่ดินและออกแบบสิ่งก่อสร้างอย่างเหมาะสม การส่งเสริมให้สตรีเข้ามามีส่วนร่วม ตลอดจนการวางแผนและฝึกอบรมแม้เพียงส่วนย่อยๆก็อาจให้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ นอกจากนี้ยังได้กระตุ้นให้รัฐบาลทุกประเทศเร่งสร้างระบบสาธารณูปโภคที่ปลอดภัยกว่าเดิม และให้ความรู้กับประชาชนเรื่องการป้องกันตนเองในช่วงที่เกิดภัยธรรมชาติ

เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติกล่าวว่าการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัตินั้นเป็นหน้าที่ของทุกๆคน และว่าโรงเรียนที่ไม่ถล่ม อาคารที่ยังยืนหยัดและหมู่บ้านที่ไม่ถูกทำลายไปกับภัยธรรมชาติ คือเครื่องบ่งชี้ว่าการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติต่างๆ เป็นสิ่งที่ได้ผลจริง

XS
SM
MD
LG