ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ภาวะเงินเฟ้อจากการทำกงเต้ก เป็นปัญหาที่แก้ไขได้หรือไม่


ในครั้งหนึ่ง การเผาเงินกงเต้กที่ระบุมูลค่าแค่ 5 หรือ 10 ดอลล่าร์ฮ่องกง เป็นของธรรมดา แต่ในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ มูลค่าเงินกงเต้กเพิ่มขึ้นจากจำนวนล้านไปเป็นล้านล้านแล้ว

ตามร้านค้าของกงเต้กในฮ่องกง สินค้าขายดีที่ขาดตลาดบ่อยๆ คือธนบัตรกงเต้กยาวหนึ่งฟุต สีรุ้งสดใส มูลค่าหนึ่งล้านล้านดอลล่าร์

คาดกันว่า ในช่วงสองสามสัปดาห์ข้างหน้า เมื่อมีเทศกาล Hungry Ghost ในฮ่องกง ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ได้รับอนุญาตให้กลับไปเยี่ยมบ้านได้ ปัญหาภาวะเงินเฟ้อในโลกของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จะหนักหนายิ่งขึ้นไปอีก

แต่คุณ Li Yin-kuan สุภาพสตรีวัย 42 ปี เจ้าของร้านขายของกงเต้กในฮ่องกง บอกว่าแนวโน้มที่ทำให้เธอมีความวิตกกังวลมากกว่าธนบัตรมูลค่าหนึ่งล้านล้านดอลล่าร์ คือ บัตรเครดิตจากธนาคารในดลกของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เริ่มปรากฏให้เห็น บัตรเครดิตเหล่านี้ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยรูปเพชรสีชมพู หรือ VIP สติ๊คเก้อร์โดดเด่น บ้างก็ใช้สีเขียวอ่อน ละม้ายคล้ายคลึงกับบัตรของ American Express

นักเศรษฐศาสตร์ Timothy Hau มหาวิทยาลัยฮ่องกง ยอมรับว่า ไม่สามารถควบคุมปริมาณเงิน หรือ Money Supply ในตลาดการเงินในโลกของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้ และยิ่งมีการเผาเงินกงเต้กมากขึ้นเท่าไร อัตราเงินเฟ้อก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างที่นักเศรษฐศาสตร์ใหญ่ผู้ล่วงลับไปแล้ว Milton Friedman กล่าวไว้ว่า ปริมาณเงิน หรือ Money Supply เป็นสาเหตุของภาวะเงินเฟ้อ

แต่อาจารย์ Maria Tam นักมานุษยวิทยาของ Chinese University of Hong Kong บอกว่า การเผาเงินกงเต้กเป็นวัฒนธรรมสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่อยู่ข้างหลังเอาใจใส่ดูแลบรรพบุรุษ และว่าการดูแลนี้ต้องกระทำกันอย่างรอบคอบด้วย เช่น เมื่อเผาบ้านไปให้ ก็ต้องเผาเงินไปด้วย เพื่อว่าผู้รอรับบ้านจะมีเงินได้ติดสินบนเจ้าหน้าที่ ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับบ้านที่ส่งไปให้

เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วมีความสุข ก็ไม่ต้องคิดแก้ปัญหาภาวะเงินเฟ้อในโลกของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
XS
SM
MD
LG