ประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็กหลายแห่งออกมาแสดงความเห็นที่ต่อต้านข้อเสนอเรียกเก็บภาษีรายได้ธุรกิจของบริษัทข้ามชาติที่ผู้นำประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ประเทศ (G-7) ลงนามรับรองในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภายใต้ข้อตกลงตามข้อเสนอการปฏิรูประบบภาษีโลกนี้ กลุ่มประเทศ G-7 ยืนยันสนับสนุนการเรียกเก็บภาษีนิติบุคคลสากลในอัตราขั้นต่ำที่ 15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประเทศที่มีขนาดเล็กทั้งหลายกล่าวว่า หากมีการนำไปปฏิบัติใช้ทั่วโลก ข้อเสนอนี้จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของตน ทั้งยังจะกระทบกระบวนการฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ด้วย พร้อมร้องเรียนด้วยว่า การปฏิรูประบบภาษีดังกล่าวมีแต่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศร่ำรวยเท่านั้น
ทั้งนี้ ข้อเสนอการปรับเปลี่ยนระบบภาษีที่กลุ่ม G-7 รับรองนั้นเป็นแนวคิดที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เป็นผู้เสนอร่วมกับแผนงานอื่นๆ ซึ่งมีจุดประสงค์แก้ปัญหาที่ธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่เฝ้าหลีกเลี่ยงภาระภาษีด้วยการโยกย้ายตัวเลขกำไรไปรายงานอยู่ในประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ
ประเทศกำลังพัฒนาและมีขนาดเล็กที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ยังแย้งด้วยว่า ประเทศของตนควรมีสิทธิ์ที่จะเรียกเก็บภาษีนิติบุคคลอัตราที่ต่ำกว่าที่ประเทศสมาชิกกลุ่ม G-7 ตั้งให้เป็นอัตราขั้นต่ำด้วยซ้ำ แต่บรรดารัฐมนตรีคลังของกลุ่มโต้กลับว่า การกระทำเช่นนั้นมีแต่จะทำให้เกิดการแข่งขันในการเสนออัตราภาษีที่ต่ำลงไปเรื่อยๆ เพื่อดึงดูดธุรกิจต่างชาติให้เข้ามาเปิดสำนักงานในประเทศเหล่านั้น
ในเวลานี้ มีหลายประเทศที่แสดงจุดยืนสนับสนุนแผนงานคล้ายๆ กันของคณะกรรมาธิการภาษีขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงระบบภาษีสำหรับบริษัทดิจิทัลยักษ์ใหญ่ และเสนอสิทธิ์ที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมให้กับประเทศที่มีการใช้บริการดิจิทัลเหล่านั้นซึ่งก่อให้เกิดรายได้แก่ประเทศ นอกเหนือจากการเก็บภาษีจากที่ทำการใหญ่ของบริษัทนั้นๆ เท่านั้น เพื่อช่วยให้ประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาจัดเก็บรายได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับประเทศที่สนับสนุนแผนงานของยูเอ็นนั้น มีอาทิ อินเดีย อาร์เจนตินา เอกวาดอร์ กานา ไนจีเรีย และเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม บรรดารัฐมนตรีคลัง G-7 หวังว่า การสนับสนุนข้อเสนอปฏิรูปภาษีโดยผู้นำของประเทศตนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านจะช่วยผลักดันข้อเสนอนี้ในเวทีอื่นๆ ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งรวมถึง การประชุมของตัวแทน 135 ประเทศที่กรุงปารีส และการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G-20 ที่นครเวนิส ในเดือนหน้า
